การเจ็บไข้ได้ป่วยถือเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะเกิดกับสาวๆ หรือใครก็ได้ แต่สิ่งที่เราสามารถทำได้นั่นก็คือการดูแลสุขภาพของเราให้ฟิตและเฟิร์มอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนหากร่างกายของเราแข็งแรงก็จะทำให้ปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บได้ แต่หากเราได้รับการเจ็บป่วยแล้วละก็ คงไม่นิ่งเฉยในการรักษาเพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีนั้นกลับมาใช่ไหม
อาการอักเสบของร่างกายก็เช่นกันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาและทุกส่วนของร่างกายเรา ซึ่งบ่อยครั้งที่เราเลือกใช้วิธีการรักษาด้วยกับตัวยาชนิดใดชนิดหนึ่ง แต่วันนี้เรามีทางเลือกใหม่ให้แก่คุณสาวๆ ได้ลองทำกันค่ะ ซึ่งเป็นผลผลิตที่ได้จากธรรมชาติ มีส่วนช่วยในการรักษาอาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อยาราคาแพงๆ มาทานกันอีกด้วย อยากรู้แล้วใช่ไหมค่ะว่าอาหารเหล่านี้มีอะไรบ้าง เรามาอ่านพร้อมๆ กันเลยดีกว่าค่ะ
1.ถั่วเปลือกแข็ง
ถั่วเปลือกแข็งรวมทั้งถั่วเกือบทุกชนิดนั้นจะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ค่อนข้างสูงมาก ดังนั้นถั่วเปลือกแข็งจึงสามารถช่วยรักษาเนื้อเยื่อและอวัยวะที่ถูกทำลายจากการติดเชื้อหรืออักเสบได้ ถั่วเหล่านี้ได้แก่ อัลมอนด์ที่อุดมไปด้วยแคลเซียม, ไฟเบอร์ และวิตามินอี รวมถึงวอลนัทที่อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยในการรักษาอาการอักเสบและการติดเชื้อของร่างกายได้
2.ชาเขียวไร้คาเฟอีน
ชาเขียวนับเป็นสุดยอดของชาที่อุดมด้วยคุณประโยชน์ดีๆ มากมาย ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีสรรพคุณช่วยต้านสิวและการอักเสบได้ดีมากค่ะ หากสาวๆ เป็นคนชอบดื่มชาเขียวอยู่แล้ว แนะนำให้ดื่มชาเขียวที่ไร้คาเฟอีนและควรดื่มตอนร้อนๆด้วยนะคะ เพราะจะทำให้เราได้รับประโยชน์ได้อย่างเต็มเปี่ยมค่ะ
3.ถั่วเหลือง
ถั่วเหลืองเป็นพืชที่อุดมด้วยสารอาหารหลากหลายชนิด ให้โปรตีนและน้ำมันสูง เมื่อปี 2007 ได้มีการศึกษาจากสัตว์ และถูกตีพิมพ์ในวารสารเพื่อสุขภาพ Journal of Inflammation ได้เผยว่า สารไอโซฟลาโวน และเอสโตรเจนที่ได้ถูกค้นพบในถั่วเหลืองนั้น สามารถช่วยลดโปรตีน CRP ลงได้ และที่สำคัญถั่วเหลืองยังมีจุดเด่นช่วยลดอาการข้างเคียงที่เกิดกับกระดูกและหัวใจในหนูได้เป็นอย่างดี
4.ขิง
ขิงมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการปวดข้อที่คล้ายกับยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สารสเตียรอยด์ ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวด และลดการอักเสบที่มีการติดเชื้อในร่างกายได้เป็นอย่างดี ไม่ทำให้เกิดผลข้างเคียงใดๆ และสาวๆ สามารถทำไว้รับประทานเองได้ไม่ยาก เพียงนำขิงสดมาต้มแล้วนำมาดื่ม แค่นี้ก็ช่วยบรรเทาอาการปวดหรืออาการอักเสบของสาวๆ ได้อย่างเหลือเชื่อเลยละค่ะ
5.ชาคาโมมายล์
ดอกคาโมมายล์มีสรรพคุณช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ จึงช่วยให้เราหลับสลาย ช่วยกระตุ้นในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันและรักษาเรื่องระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคกระเพาะหรือลำไส้ ซึ่งในดอกคาโมมายล์นั้นยังมีสารเทอร์ฟินอยด์ และไอโซฟลาโวนอยด์ ที่มีส่วนช่วยต้านการอักเสบ โดยเฉพาะอาการอักเสบที่เกิดจากข้อต่อของร่างกายได้อีกด้วยค่ะ ส่วนสาวๆ ท่านใดไม่ค่อยชอบกลิ่นฉุนจากน้ำขิง ก็ลองเปลี่ยนมาดื่มชาคาโมมายล์แทนนะคะ
6.กรดไขมันโอเมก้า
กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันชนิดดีที่ร่างกายของเราต้องการและมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับอย่างเพียงพอในแต่ละวัน กรดไขมันโอเมก้า3 ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยต้านอาการอักเสบและการติดเชื้อได้ อีกทั้งยังมีความสำคัญต่อการทำงานของสมองอีกด้วย โอเมก้า 3 จะพบในอาหารประเภทปลา ได้แก่ ปลาเซลมอน, ปลาทูน่า, ปลาสวาย, ปลาช่อน และในผลไม้จะมีอยู่ในลูกอะโวคาโดค่ะ ดังนั้นหากสาวๆ ที่มีอาการอักเสบและติดเชื้อในร่างกาย ลองหันมาดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารชนิดที่มีโอเมก้า 3 เพื่อบรรเทาอาการเหล่านี้ให้ทุเลาลงนะคะ
7.ขมิ้นชัน
ขมิ้นชันสมุนไพรพื้นบ้านชนิดหนึ่งที่มีสารพัดประโยชน์และสรรพคุณอันมากมาย ซึ่งสรรพคุณหนึ่งในนั้นก็คือ สามารถลดการอักเสบและลดอาการของโรคสะเก็ดเงินได้ อีกทั้งขมิ้นชันยังมีคุณสมบัติช่วยต้านโรคมะเร็งได้เป็นอันดับต้นๆ เลยทีเดียว เพราะหากทานขมิ้นชันเข้าไปแล้วจะสามารถช่วยระงับการอักเสบที่ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้เป็นอย่างดีค่ะ
8.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
ความจริงแล้วผลไม้แทบทุกชนิดนั้นมีคุณสมบัติต้านอาการอักเสบของร่างกายได้ เพราะมีระดับไขมันที่ต่ำ และยังมีจำพวกสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย แต่ผลไม้ตระกูลเบอร์รีนั้นมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถช่วยต้านอาการอักเสบโดยตรง ไม่เพียงแต่มีสารต้านอนุมูลอิสระเท่านั้น แต่ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะมีสารแอนโทไซยานินที่ช่วยในการต้านเชื้ออักเสบได้เป็นอย่างดีอีกด้วยค่ะ
อาการอักเสบและการติดเชื้อสามารถบรรเทาจนอาจหายขาดได้ด้วยการรับประทานอาหารที่ดีและถูกกับโรค ซึ่งสาวๆ อาจไม่ต้องพึ่งพาตัวยาใดๆ อีกต่อไป ดังนั้นลองหันมาเปลี่ยนวงจรชีวิตของเราด้วยกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพที่ได้จากธรรมชาติ
อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการรักษาหรือบรรเทาอาการอักเสบและการติดเชื้อให้แก่สาวๆ อีกด้วยค่ะ สาวๆ อยากจะรู้ว่าได้ผลลัพธ์ดีแค่ไหน ต้องลองทำดูนะคะ