มัลเบอร์รี (Mulberry) หรือ ลูกหม่อน เป็นผลไม้ที่กำลังมาแรงอย่างมากทีเดียว สำหรับใครที่อยากรู้ว่าผลไม้ชนิดนี้มีประโยชน์อย่างไร วันนี้ อาหารว่าง.com หยิบเอา ประโยชน์ของมัลเบอร์รี มาฝากกันแล้ว เรามาดูกันดีกว่านะคะว่าหนึ่งในผลไม้ตระกูลเบอร์รีอย่างผลมัลเบอร์รีนั้น จะอัดแน่นไปด้วยประโยชน์และสรรพคุณเพื่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
มัลเบอร์รี คืออะไร?
มัลเบอร์รี (Mulberry) มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Morus nigra. L. เป็นหนึ่งในพืชที่อยู่ในตระกูลเบอร์รี คนไทยเรามักคุ้นเคยกันดีในชื่อ “ลูกหม่อน” เพราะเป็นผลไม้ของต้นหม่อนที่นิยมปลูกเพื่อเลี้ยงหนอนไหมนั่นเอง การเลี้ยงหนอนไหมนั้นก็ถือเป็นจุดกำเนิดของอุตสาหกรรมทอผ้าไหมอย่างที่คนไทยสมัยก่อนนิยมถักทออยู่เป็นประจำ
ต้นหม่อนมีลักษณะเป็นพืชยืนต้นในประเภทไม้พุ่มที่มีขนาดกลาง เนื้อไม้อ่อน สามารถเจริญเติบโตได้ดียิ่งนักในพื้นที่เขตร้อน ลำต้นของมันจะมีลักษระกลมๆ ผิวเรียบ ไร้หนาม มียางสีขาวขุ่นคล้ายกับน้ำนม ใบต้นหม่อนมีลักษณะขอบหยัก ใบส่วนปลายแหลม ฐานของใบกลมหรือมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ ผิวใบสาก ก้านใบเรียวเล็ก ออกดอกเป็นรูปทรงกระบอก โดยดอกของต้นหม่อนมักจะออกตามซอกใบและในส่วนของปลายยอด ผลของต้นหม่อนหรือที่เรียกกันว่า “มัลเบอร์รี” ผลรวมมีลักษณะรูปทรงกระบอกสีเขียวอ่อน เมื่อผลแก่เต็มที่จึงเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มจนเกือบสีดำ ในส่วนรสชาติของผลมัลเบอร์รีจะหวานอมเปรี้ยว พร้อมกันนี้ ต้นมัลเบอร์รียังมีด้วยกันทั้งหมดถึง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ มัลเบอร์รีสีแดง มัลเบอร์รีสีขาวและมัลเบอร์รีสีดำ ซึ่งผลมัลเบอร์รีนับว่าเป็นแหล่งคุณประโยชน์มากมายมหาศาล เห็นผลเล็กๆ จิ๋วๆ แบบนี้ หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าประโยชน์ของมัลเบอร์รีมีดีต่อสุขภาพอย่างไร ถ้าเช่นนั้น มาติดตามไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ
1.ลดระดับคอเลสเตอรอล
ในร่างกายของคนเรามีไขมันคอเลสเตอรอลที่จำเป็นจะต้องควบคุมให้อยู่ในระดับสมดุลอยู่เสมอ หากปล่อยให้ไขมันดังกล่าวมีมากเกินไปก็อาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมาได้ โดยเฉพาะโรคหัวใจและหลอดเลือด แต่การรับประทานมัลเบอร์รีจะสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) ขึ้นมาแทนที่พร้อมกันได้ ไม่เพียงเท่านั้น คุณสมบัติของมัลเบอร์รียังช่วยลดไขมันจากตับ และช่วยลดความเสี่ยงจากการที่มีไขมันเข้ามาพอกตับให้น้อยลงได้อีกด้วย
2.แหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระสูง
ผลไม้ตระกูลเบอร์รีโดยส่วนใหญ่ มักเปี่ยมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูงด้วยกันทั้งสิ้น และมัลเบอร์รีก็เช่นเดียวกัน นับเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยจะช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ได้รับการทำลาย จนก่อให้เกิดการอักเสบต่างๆ และทำให้มีริ้วรอรอยก่อนวัย อีกทั้งสารต้านอนุมูลอิสระจากผลมัลเบอร์รี ยังสามารถช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่ม ช่วยลดเลือนจุดด่างดำและบำรุงสุขภาพเส้นผมให้สวยเงางามได้ด้วย
3.กระตุ้นการไหลเวียนเลือด
ธาตุเหล็กเป็นสารอาหารสำคัญที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดและทำให้ร่างกายคนเราสามารถส่งผ่านออกซิเจนเข้าไปหล่อเลี้ยงเนื้อเยื่อ รวมถึงอวัยวะต่างๆ ได้อย่างราบรื่นมากขึ้น แต่ปกติแล้ว สารอาหารชนิดนี้หาได้ยากยิ่งนักในพืชทั่วไป ทว่ากลับมีในผลมัลเบอร์รี เพราะฉะนั้น หากต้องการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด อย่าลืมรับประทานมัลเบอร์รีเป็นประจำนะคะ จะได้บำรุงการทำงานของเลือดให้แข็งแรงไปพร้อมๆ กัน
4.ช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต
โรคความดันโลหิตสูง หากสามารถควบคุมระดับความดันให้อยู่ในระดับพอดีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะอันตรายย่อมมีน้อยแน่นอน และสำหรับเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งเป็นสารที่มักพบในเปลือกของผลไม้บางชนิด อย่างเช่น องุ่นและผลไม้ตระกูลเบอร์รีบางชนิด ที่สำคัญยังมีในผลมัลเบอร์รีไม่น้อยอีกด้วย ดังนั้นแล้ว หากใครเป็นโรคดังกล่าว แนะนำให้รับประทานมัลเบอร์รีเป็นประจำก็จะช่วยควบคุมความดันโลหิตให้คงอยู่ในระดับปกติ และยังช่วยลดความเสี่ยงสำหรับโรคที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับหลอดเลือดลงได้อีกด้วย
5.เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
มัลเบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีสารอัลคาลอยด์ (Alkaloids) ซึ่งสารดังกล่าวมีบทบาทในการเสริมสร้างการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย โดยการเข้าไปกระตุ้นเซลล์แมคโคเฟจ (macrophages) ซึ่งเป็นเซลล์ที่คอยทำหน้าที่กำจัดเชื้อโรคและเชื้อไวรัสที่มักลักลอบเข้ามาในร่างกาย ใครที่รับประทานมัลเบอร์รีบ่อยๆ รับรองสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลจากการเจ็บป่วยอย่างแน่นอนค่ะ
6.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ผู้ป่วยเบาหวานมักมีปัญหาเรื่องระดับน้ำตาลในเลือดที่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่มัลเบอร์รีเป็นผลไม้ที่มาพร้อมสรรพคุณช่วยป้องกันไม่ให้ระดับน้ำตาลในเลือดเกิดการผกผันได้ หากเรารับประทานเข้าไปมันจะเข้าไปช่วยชะลอการย่อยสลายของคาร์โบไฮเดรต ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดไม่สามารถเกิดการผกผันจนส่งผลกระทบต่อร่างกายตามมา
7.ป้องกันโรคมะเร็ง
เซลล์ต่างๆ ในร่างกายของคนเรา เมื่อได้รับการถูกทำลายก็จะเปลี่ยนมาเป็นเซลล์ที่มีภาวะผิดปกติ จนก่อตัวกลายมาเป็นเซลล์มะเร็งได้ในที่สุด แต่การรับประทานอาหารที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระถือเป็นวิธีช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ได้รับการทำลายได้ ซึ่งในมัลเบอร์รีเองก็เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง แน่นอนว่ามันสามารถช่วยต่อกรกับเซลล์มะเร็งร้ายได้เช่นกัน โดยจะเข้าไปยับยั้งการก่อตัวของเซลล์โรคมะเร็ง และทำหน้าที่ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งไปพร้อมๆ กัน ฉะนั้น มัลเบอร์รีจึงถือเป็นสุดยอดผลไม้ต้านมะเร็งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
8.บำรุงสายตา
มัลเบอร์รีมีซีแซนทีนที่จะช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ซึ่งสารอาหารชนิดนี้จะเข้าไปช่วยลดภาวะการเกิดออกซิเดชั่นในดวงตาได้ และยังช่วยป้องกันการเกิดจอประสาทตาเสื่อม ไม่เพียงเท่านั้น สารต้านอนุมูลอิสระจากมัลเบอร์รียังทำให้ดวงตาสดใสอีกทั้งวิตามินบี 1 ก็ยังมีประโยชน์ต่อการบำรุงสุขภาพดวงตาเช่นเดียวกัน
9.ช่วยล้างพิษให้แก่ร่างกาย
ทางแพทย์แผนจีน ได้ยกให้มัลเบอร์รีเป็นสมุนไพรชั้นเยี่ยมที่มีคุณสมบัติในการล้างพิษให้แก่ตับ ไตและเลือด นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการเผาผลาญแอลกอฮอล์ภายในร่างกาย และช่วยแก้อาการเมาค้างได้เป็นอย่างดี ใครแฮงก์บ่อยๆ รับประทานมัลเบอร์รีแล้วไม่มีพลาดแน่นอน
10.เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง
มัลเบอร์รีเป็นแหล่งของสารอาหารมากมาย ตั้งแต่วิตามินเค แคลเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัสและแมกนีเซียม สารอาหารเหล่านี้ล้วนมีบทบาทสำคัญต่อการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง โดยจะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อกระดูกและช่วยป้องกันการเกิดภาวะกระดูกพรุน ทั้งยังสามารถช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของกระดูกที่มักเกิดขึ้นตามวัยได้ด้วย ยิ่งหากรับประทานมัลเบอร์รีพร้อมกับโยเกิร์ตจะยิ่งเพิ่มแคลเซียมได้อย่างทวีคูณเลยทีเดียว
11.ช่วยบำรุงสมอง
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ทำการทดลองกับหนูตัวผู้ โดยให้หนูที่มีปัญหาด้านสมองกินมัลเบอร์รีซึ่งก็ค้นพบว่า หนูมีความจำดีขึ้น สามารถลดการเกิดภาวะออกซิเดชั่นซึ่งเป็นสาเหตุในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ลงได้ นอกจากนี้แล้ว สารต้านอนุมูลอิสระจากมัลเบอร์รีก็ยังช่วยป้องกันไม่ให้เซลล์ในสมองได้รับการทำลายอีกด้วย มัลเบอร์รีจึงเป็นผลไม้บำรุงสมองที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง
12.ดีต่อระบบขับถ่าย
มัลเบอร์รีจัดเป็นผลไม้ที่มีปริมาณไฟเบอร์สูงมาก จึงเป็นผลดีต่อระบบขับถ่าย ใครที่มีปัญหาท้องผูกเป็นประจำ รับประทานมัลเบอร์รีแล้วช่วยได้แน่นอน นอกจากนี้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาท้องอืดจุกเสียดแน่น มัลเบอร์รีก็ยังช่วยแก้อาการท้องอืดและจุกเสียดได้ด้วย
ข้อควรระวังในการรับประทาน
แม้มัลเบอร์รีเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายเพียงใด แต่ก็ต้องรับประทานอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะใครที่มีอาการแพ้มัลเบอร์รียิ่งไม่ควรรับประทานเด็ดขาด เพราะอาจกระตุ้นให้อาการแพ้ยิ่งกำเริบหนักได้ ส่วนผู้ป่วยเบาหวานแนะนำให้รับประทานแต่เพียงพอดี เนื่องจากมัลเบอร์รีมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ หากทานมากเกินไปก็อาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดต่ำลงจนเกิดอันตรายต่อร่างกายตามมา ดังนั้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานจะดีที่สุด
และนี่ก็คือประโยชน์ของมัลเบอร์รีที่มีต่อสุขภาพร่างกาย แต่ในผู้ป่วยเบาหวานและผู้ที่มีอาการแพ้มัลเบอร์รีก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะรับประทานดีกว่า เพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพตามมาภายหลังได้นั่นเอง