พระเครื่อง เครื่องราง

10 ประโยชน์ของถั่วลันเตาเพื่อสุขภาพ แหล่งอาหารเลอค่าที่ไม่ควรพลาด!

ถั่วลันเตา มีลักษณะเป็นฝักถั่วสีเขียวอ่อนสวยงามน่ารับประทาน ภายในฝักมีเมล็ดประมาณ 3-10 เมล็ด โดยสามารถนำมาประกอบเมนูอาหารรับประทานได้ตั้งแต่ฝักอ่อนทั้งฝัก หรือจะนำเอาแต่เมล็ดมารับประทานอย่างเดียวก็ได้เช่นกันสำหรับถั่วลันเตานั้นเป็นพืชผักที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ด้วยเหตุนี้เราจึงหยิบเอาคุณประโยชน์ของถั่วลันเตามาฝาก ถั่วลันเตามีดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างไรบ้าง มาดูกันนะคะ

ประโยชน์ของถั่วลันเตา

ประโยชน์ของถั่วลันเตาเพื่อสุขภาพ

ถั่วลันเตา มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า Peas, Garden Peas หรือ Green Peas และมีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Pisum sativum L. ถั่วลันเตานั้นเป็นพืชในตระกูลถั่ว (Legumes) สำหรับประวัติความเป็นมาของพืชชนิดนี้ เนื่องจากมีการสันนิษฐานว่ามีต้นกำเนิดมาจากในแถบประเทศซีเรียและตุรกี ซึ่งพบว่ามีการเริ่มปลูกถั่วลันเตามาตั้งแต่ช่วง 8,000-9,500 ปีก่อน สำหรับประโยชน์ของถั่วลันเตาที่มีต่อสุขภาพนั้น ได้แก่…

1.เป็นแหล่งสารต้านอนุมูลอิสระ

อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า สารต้านอนุมูลอิสระมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายเราอย่างไรบ้าง ซึ่งถั่วลันเตาก็เป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง ไม่ว่าจะเป็นสารฟลาโวนอยด์ แคโรทีนอยด์ กรดฟีโนลิกและโพลีฟีนอล โดยจะช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจนได้รับความเสียหาย และยังช่วยลดการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ อัลไซเมอร์และช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งของวิตามินซี อีและสังกะสีอีกด้วย 

ประโยชน์ของถั่วลันเตา

2.ลดคอเลสเตอรอล

ถั่วลันเตาเป็นผักที่มีไนอะซิน (Niacin) โดยสารอาหารดังกล่าวมีส่วนสำคัญต่อการช่วยลดการสร้างไขมันไตรกลีเซอไรด์และไขมัน VLDL ซึ่งไขมันชนิดนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ในการลำเลียงไตรกลีเซอไรด์จากตับไปสู่อวัยวะต่างๆ โดยจะส่งผลทำให้ระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ลดน้อยลง ขณะเดียวกัน มันยังช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดที่ดี (HDL) ให้เพิ่มระดับขึ้นได้อีกด้วย จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดอุดตันขึ้นได้

3.ลดน้ำหนัก

การกินอาหารลดน้ำหนักนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะหลักๆ เราจะต้องเลือกกินผักที่ให้เส้นใยและโปรตีนสูง และถั่วลันเตาก็เป็นอาหารจากธรรมชาติที่อุดมไปด้วยโปรตีนปริมาณสูง มีไฟเบอร์ที่จะทำให้อิ่มนานขึ้น ช่วยลดอาการหิวจุบจิบในระหว่างวันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีไขมันต่ำ จึงเหมาะยิ่งนักสำหรับคนที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก 

ลดน้ำหนัก

4.แก้ปัญหาท้องผูก

ผักทุกชนิดล้วนเป็นแหล่งของไฟเบอร์ด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งเจ้าถั่วลันเตานี้ก็มีไฟเบอร์สูงที่จะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้น และยังทำให้ระบบการทำงานของลำไส้เป็นไปอย่างปกติอีกด้วย บอกเลยค่ะว่าใครที่มีปัญหาท้องผูกบ่อยๆ กินถั่วลันเตาแล้วอาการต้องดีขึ้นแน่นอน

5.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด

อาหารที่มีไฟเบอร์ก็นับเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่จะทำให้อาการของโรคเบาหวานลดความรุนแรงลงได้ และในถั่วลันเตาก็เป็นแหล่งของไฟเบอร์อย่างที่ไม่ทำให้ต้องผิดหวัง เพราะไฟเบอร์จะทำให้น้ำตาลถูกย่อยช้าขึ้น ทำให้การดูดซึมน้ำตาลเป็นไปอย่างช้าลง ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดไม่เกิดการผกผันอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระที่พบจากในถั่วลันเตาก็ยังมีบทบาทในการป้องกันภาวะดื้ออินซูลิน อันเป็นสาเหตุในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และถึงแม้ในถั่วลันเตาจะมีน้ำตาล หากก็เป็นน้ำตาลที่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่งเช่นกัน รับรองค่ะว่าไม่ทำลายสุขภาพผู้ป่วยเบาหวานอย่างแน่นอน

ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด

6.บำรุงสายตา

โดยปกติแล้ว เราต่างก็ทราบกันดีว่าวิตามินเอคือ สารอาหารที่จะช่วยบำรุงสายตาได้เป็นอย่างดี และในถั่วลันเตาก็มีวิตามินดังกล่าวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งถั่วลันเตาปริมาณ 1/2 ถ้วย มีวิตามินเอสูงถึง 32% ของปริมาณที่ร่างกายเราควรได้รับต่อวัน อีกทั้งยังมีลูทีน (Lutein) สารสำคัญที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยปกป้องดวงตาจากการเกิดภาวะต้อกระจกและป้องกันไม่ให้จอประสาทตาเสื่อม ทำให้ดวงตาของเราสุขภาพดีนั่นเอง

7.บำรุงสุขภาพหัวใจ

ถั่วลันเต้าไม่ได้มีดีแค่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและช่วยป้องกันไม่ให้หลือดเลือดอุดตันได้แต่เพียงเท่านั้นนะคะ แต่เนื่องจากในถั่วลันเตาก็มีลูทีนและไฟเบอร์ที่จะช่วยลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดแดงแข็งได้ ซึ่งมันจะเข้าไปทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้คราบพลักก่อตัวขึ้นภายในผนังหลอดเลือดแดงนั่นเอง นอกจากนี้ สารต่างๆ อย่างไธอะมีน ไรโบฟลาวิน โฟเลต ไนอะซินและวิตามินบี 6 ยังมีคุณสมบัติช่วยลดระดับของโฮโมซีสเตอีน (Homocysteine) ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจลดลงอีกด้วย 

โรคหัวใจ

8.บำรุงกระดูกให้แข็งแรง

วิตามินเค คือวิตามินที่ดีต่อการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ซึ่งถั่วลันเตานั้นก็มีวิตามินเคสูงทีเดียว โดยถั่วลันเตา 1 ถ้วยให้ปริมาณของวิตามินเคมากถึง 44% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน รับรองค่ะว่าหากรับประทานถั่วลันเตาเป็นประจำ วิตามินเคจะเข้าไปช่วยบำรุงกระดูกให้แข็งแรงขึ้นได้ เพราะมันจะช่วยให้กระดูกสามารถสะสมแคลเซียมได้สูงยิ่งขึ้น นอกจากนี้แล้ว ยังมีวิตามินบีที่เปี่ยมสรรพคุณในการช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี

9.ป้องกันโรคมะเร็งภายในช่องท้อง

เนื่องจากมีผลการศึกษาจากในประเทศเม็กซิโกได้ค้นพบว่า การทานถั่วลันเตาเป็นประจำทุกวันจะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งภายในช่องท้องได้ ทั้งนี้เพราะถั่วลันเตามีสารต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อ คูเมสทรอล (Coumestrol) ซึ่งมีสารชนิดนี้ในปริมาณสูงถึง 10 มิลลิกรัมต่อปริมาณถั่วลันเตา 1 ถ้วย สำหรับสารต้านอนุมูลอิสระชนิดดังกล่าวจะช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชั่นที่ก่อให้เกิดความอับเสบ และยังมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการก่อตัวของเซลล์โรคมะเร็งได้เป็นอย่างดี 

ปวดท้อง

10.อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก

ร่างกายของคนเราขาดธาตุเหล็กไม่ได้แน่นอน เพราะเป็นสารอาหารสำคัญต่อการทำงานของร่างกายหลายอย่าง สำหรับในถั่วลันเตานั้นก็เป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กอย่างที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน โดยถั่วลันเตา 1/2 ถ้วย มีปริมาณธาตุเหล็ก 1.2 มิลลิกรัมทีเดียว ความสำคัญของธาตุเหล็กคือ มันเป็นสารอาหารสำคัญที่พบได้จากในฮีโมโกลบิน เป็นโปรตีนสำคัญซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการช่วยลำเลียงออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงยังส่วนต่างๆ ภายในร่างกาย ดังนั้น ถ้าเรารับประทานอาหารที่ให้ธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ ก็จะส่งผลทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเข้าไปอย่างเพียงพอด้วยเช่นเดียวกัน และยังช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายทรุดโทรมอ่อนเพลียได้ง่ายอีกด้วย

ข้อควรระวังในการรับประทาน!

จริงอยู่ที่ถั่วลันเตาเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ หากแต่ก็ยังมีข้อควรระวังในการรับประทานด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคเกาต์หรือโรคไต เพราะถั่วลันเตามีสารพิวรีน (Purines) สารชนิดนี้เมื่อแปรสภาพไปแล้วมันจะกลายมาเป็นกรดยูริกที่จะเข้าไปกระตุ้นอาการของโรคไตและโรคเกาต์กำเริบหนักขึ้นได้ เพราะฉะนั้น ผู้ป่วยสองโรคดังกล่าวจึงควรหลีกเลี่ยงรับประทาน หรือทานแต่เพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ 

ประโยชน์ของถั่วลันเตา

ทราบประโยชน์ของถั่วลันเตากันไปแล้ว รวมถึงข้อควรระวังในการรับประทาน อย่างไรก็ดี ผู้ที่ป่วยโรคไตและโรคเกาต์ก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะรับประทานดีกว่า หรือทานแต่เพียงน้อยๆ ให้พอได้ลิ้มลองบ้างก็ไม่เป็นไร

แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ รุนแรง ถือว่าเหมาะสมอย่างมากทีเดียวที่คุณจะหันมารับประทานเมนูจากถั่วลันเตาเป็นประจำ บอกเลยอยากมีสุขภาพ ถั่วลันเตาเล็กๆ เขียวๆ นี่แหละจัดเต็มให้ได้อย่างไม่มีผิดหวัง!