
ผู้คนโดยทั่วไปมักคิดว่าอาการนี้มีเฉพาะในผู้ชาย แต่หากศึกษาข้อมูลดีๆ แล้วจะพบว่า ในผู้หญิงก็มีอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้เช่นกัน หลายคนคงสงสัยแล้วใช่มั้ยว่าจะเกิดขึ้นได้อย่างไร แบบไหน จินตนาการไม่ออกซะส่วนใหญ่
แต่หากพิจารณาโดยหลักธรรมชาติ ไม่ว่าเพศหญิงหรือชาย ก็มีการเสื่อมถอยเป็นธรรมดา แต่เมื่อเกิดอาการเสื่อมถอยก่อนวัยอันควร ก็ต้องตั้งข้อสังเกตตัวเองว่าอาจมีภาวะบางอย่างผิดปกติไป และควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป
ลักษณะของโรค
ทางการแพทย์ เรียกกลุ่มอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศในผู้หญิงหรือ Female Sexual Dysfunction หรือแพทย์บางท่านเรียกว่า Sexual dissatisfunction คือ อาการที่มีความผิดปกติของผู้หญิงเกี่ยวกับเพศสัมพันธ์ เช่น ไม่มีความต้องการทางเพศ ความต้องการทางเพศลดลง ไม่มีอารมณ์เวลาถูกกระตุ้นทางเพศ รู้สึกอึดอัดเวลามีเพศสัมพันธ์ หรือไม่ถึงจุดสุดยอด เหล่านี้เป็นต้น ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอาจจะเกิดจากคู่ครองขาดความรู้ คู่ครองไม่น่าสนใจ หรือไม่เข้าใจวิธีการกระตุ้นให้เกิดอารมณ์ หรือไม่มีความรู้เรื่องจุดที่ควรจะกระตุ้น เป็นต้น โดยมากคนที่มีอาการนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงวัยทองในระยะที่ฮอร์โมนเริ่มจะลดลง

กลไกการถึงจุดสุดยอด
มีอยู่ 4 ขึ้นตอนด้วยกันคือ
1. ระยะตื่นเต้น (excitement) : เป็นช่วงแรกของการมีเพศสัมพันธ์ ในผู้ชายอาจถูกกระตุ้นด้วยการมอง การได้ยิน ได้กลิ่น หรือจินตนาการ สำหรับผู้หญิงกระตุ้นโดยการสัมผัสตามจุดต่างๆ ของร่างกาย อาการที่แสดงออก คือ หัวใจเต้นเร็วขึ้น หายใจเร็วขึ้น ช่องคลอดบวมขึ้นและมีน้ำหล่อลื่นเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีเลือดมาเลี้ยงเพิ่มขึ้น
2. Plateau : หากมีการกระตุ้นอย่างต่อเนื่องจะเข้าสู่ระยะนี้ หัวใจจะเต้นเร็วขึ้น กล้ามเนื้อเกร็ง เต้านมจะโตขึ้นและตึง หัวนมตั้ง มดลูกเคลื่อนลง
3. จุดสุดยอด Orgasm : ระยะนี้กล้ามเนื้อช่องคลอด ทวารหนัก กล้ามเนื้อหน้าท้องจะเกร็งอย่างแรง บางท่านอาจจะส่งเสียงโดยไม่รู้ตัว
4. ระยะผ่อนคลาย Resolution : เลือดจะไหลออกจากช่องคลอด เต้านมจะกลับคืนสู่ปกติ
ดังนั้น การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศสำหรับผู้หญิง จึงเป็นการผิดปกติที่ไม่สามารถเป็นไปหรือทำให้เกิดขึ้นตาม 4 ตอนนี้ จนนำไปสู่
– ภาวะที่ไม่มีความต้องการทางเพศ ไม่สนใจในการมีเพศสัมพันธ์
– ภาวะรังเกียจหรือหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ มักเกิดหลังจากเหตุการณ์รุนแรงทางเพศ เช่น ถูกทำร้ายร่างกายก่อนมีเพศสัมพันธ์ หรือถูกกระทำชำเรา เป็นต้น
– ภาวะที่มีความต้องการทางเพศเมื่อได้รับการกระตุ้นแล้ว แต่ไม่สามารถมีความตื่นเต้นทางเพศ
– ภาวะที่ผู้หญิงไม่สามารถถึงจุดสุดยอด
– ภาวะที่มีอาการเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
– ภาวะที่กล้ามเนื้อช่องคลอดมีอาการหดเกร็งเวลามีเพศสัมพันธ์ ทำให้เกิดความลำบากขณะร่วมเพศ

สาเหตุ
สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบแน่ชัด แต่มักมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เกิดภาวะ fsd นี้ คือ การดื่มสุรา ความเครียด โรคซึมเศร้า ความวิตกกังวล โรคประจำตัว วัยทอง โรคทางระบบประสาท การขี่จักรยานเป็นเวลานานทำให้เบาะกดหลอดเลือด การสูบบุหรี่ การใช้ยาบางชนิด อุบัติเหตุที่ไขสันหลัง การผ่าตัดในช่องเชิงกราน การกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ช่องคลอดฝ่อ เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีสาเหตุอื่นๆ อีก เช่น ภาวะหลอดเลือดแดงตีบทำให้เลือดไปเลี้ยงอวัยวะอุ้งเชิงกรานน้อย ซึ่งอาจเกิดจาก อายุ ความเครียด โรคเบาหวาน หลอดเลือดแดงแข็ง ทำให้ช่องคลอดแห้ง ปุ่มคริตอรีสไม่ไวต่อการกระตุ้น หรือ ฮอร์โมนลดลงทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลงด้วย หรือแม้แต่คู่ครองไม่มีความรู้หรือประสบการณ์ไม่มากพอที่จะกระตุ้นให้ผู้หญิงมีความรู้สึกทางเพศได้ ซึ่งทำให้ผู้หญิงผิดหวัง ไม่มีความสนใจทางเพศและอาจจะรุนแรงถึงขั้นกลัวการมีเพศสัมพันธ์
แนวทางการรักษา
แต่ละคู่ที่ประสบปัญหานี้ ควรเข้ารับการแนะนำปรึกษาจากแพทย์หรือผู้รู้เฉพาะทางเพื่อทำการรักษาอย่างเหมาะสม
1.ต้องให้คู่ครองมีการปรึกษาหารือเรื่องความต้องการทางเพศ ต้องเรียนรู้ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ไวต่อการกระตุ้น การตอบสนองของร่างกายเมื่อได้รับการกระตุ้น ขั้นตอนการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง เหมาะสม
2.สนับสนุนให้ใช้เครื่องมือหรือสื่อที่กระตุ้นให้เกิดอารมณ์ทางเพศ เช่น หนังสือ วีดีโอ เครื่อง vibrator หรือกระตุ้นให้ตัวเองเพื่อที่จะได้เกิดอารมณ์ทางเพศ การเปลี่ยนบรรยากาศในการมีเพศสัมพันธ์ เปลี่ยนท่า เปลี่ยนสถานที่ เป็นต้น
3.เมื่อเวลามีเพศสัมพันธ์ให้สร้างบรรยากาศที่โรแมนติก เช่น การเปิดเพลงเพราะๆ การขมิบก้นขณะมีเพศสัมพันธ์ เป็นต้น
4.สนับสนุนให้มีการสัมผัสหรือนวดโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ หากบริเวณใดที่สัมผัสแล้วให้ความรู้สึกเสียวหรือสบายก็ให้บอกคู่ทราบ หากจะผลัดกันนวดหรือสัมผัสกัน อาจจะใช้ปากช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกซึ่งไม่จำเป็นต้องให้ถึงจุดสุดยอด
5.การป้องกันการปวด อาจจะให้ผู้หญิงอยู่บน เพื่อควบคุมความลึกของการมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจจะใช้ยาชาทาหรืออาจจะอาบน้ำอุ่นก่อนมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจจะใช้ครีมหล่อลื่น เป็นต้น
ไม่เพียงแค่ผู้ชายเท่านั้นที่ให้ความสำคัญกับสมรรถภาพทางเพศ เพราะแม้แต่ผู้หญิงเองก็ให้ความสนใจเรื่องนี้ไม่ต่างกัน เนื่องจากมันจะทำให้คู่ชีวิตเป็นไปอย่างสมหวังมีความสุข
ดังนั้น สาวๆ คนไหนที่มีปัญหาเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศเสื่อมลง ควรพบแพทย์เพื่อหาหนทางรักษากันตั้งแต่เนิ่นๆ อย่าปล่อยเอาไว้นานจนพาลทำให้การร่วมชีวิตคู่ไร้สีสันและเกิดความเบื่อหน่ายกันในที่สุดจะดีกว่า