พระเครื่อง เครื่องราง

โรคเชื้อราที่ขาหนีบ ภัยเงียบใต้ร่มผ้าที่ผู้หญิงต้องใส่ใจ!

ผิวสวยใครก็อยากมีด้วยกันทุกสัดส่วน ไม่เว้นแม้แต่ผิวใต้ร่มผ้า แต่เพราะผิวหนังของคนเรามีโอกาสเกิดเชื้อราขึ้นได้ง่าย ซึ่งปัญหาโรคผิวหนังอย่างเชื้อราที่ขาหนีบก็เป็นโรคที่สาวๆ มีโอกาสเป็นได้บ่อยอย่างมากทีเดียว

เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวทุกวัน และหากเราสวมเสื้อผ้ารัดรูปที่ไม่สามารถถ่ายเทอากาศได้ด้วยแล้ว บวกกับสาวๆ คนไหนที่ไม่ได้หมั่นใส่ใจรักษาความสะอาดของผิวบริเวณขาหนีบเป็นอย่างดีแน่นอนค่ะว่า เชื้อราที่ขาหนีบย่อมบุกรุกมาทำลายผิวอันบอบบางใต้ร่มผ้านั้นแน่นอน ด้วยเหตุนี้ เราจึงพาสาวๆ มาทำความรู้จักกับโรคเชื้อราที่ขึ้นขาหนีบ มีสาเหตุการเกิดและวิธีรักษาป้องกันอย่างไร มาติดตามกันค่ะ

โรคเชื้อราที่ขาหนีบ ภัยเงียบใต้ร่มผ้าที่ผู้หญิงต้องใส่ใจ!
โรคเชื้อราที่ขาหนีบ ภัยเงียบใต้ร่มผ้าที่ผู้หญิงต้องใส่ใจ!

สาเหตุของการเกิดเชื้อราที่ขาหนีบ

เชื้อราที่ขาหนีบมีสาเหตุการเกิดมาจากการติดเชื้อราในกลุ่ม Dermatophyte เมื่อเชื้อราชนิดนี้ลุกลามบนผิวหนังจะทำให้ชั้นหนังกำพร้าเป็นโรคที่มีลักษณะอาการผื่นแดงและอักเสบ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เกิดเชื้อราชนิดนี้ขึ้นมาได้ด้วย เช่น การสวมเสื้อผ้าหรือใช้ผ้าขนหนูร่วมกับผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ที่เป็นเชื้อรา การนุ่งกางเกงเนื้อผ้าหนาๆ ที่กักเก็บความอับชื้นซ้ำกันหลายวัน จนทำให้ขาหนีบเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค มีทั้งสิ่งสกปรกและความอับชื้น และเมื่อเหงื่อออกมาก็ยิ่งจะทำให้จำนวนเชื้อราเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวเกิดการอักเสบ มีผดผื่นแดงขึ้นร่วมกับอาการคัน

โรคเชื้อราที่ขาหนีบ ภัยเงียบใต้ร่มผ้าที่ผู้หญิงต้องใส่ใจ!
โรคเชื้อราที่ขาหนีบ ภัยเงียบใต้ร่มผ้าที่ผู้หญิงต้องใส่ใจ!

วิธีรักษาเชื้อราที่ขาหนีบ ทำได้อย่างไร?

สำหรับวิธีรักษาเชื้อราที่ขาหนีบนั้น แนะนำให้สาวๆ ซื้อยามาทาด้วยตัวคุณเองก่อน ซึ่งยาที่ใช้รักษาเชื้อราที่ขาหนีบ เป็นยาในประเภท Ketoconazole หรือ Clotrimazole โดยนำมาทาบริเวณที่มีผื่นแดงหลังจากอาบน้ำเช้า-เย็น พร้อมกับหมั่นรักษาความสะอาดอยู่เสมอ หากทำตามนี้ ส่วนใหญ่แล้วเชื้อราจะสามารถหายไปเองได้ภายในประมาณ 2-3 สัปดาห์

แต่หากสาวๆ คนไหนรักษาเชื้อราที่ขาหนีบด้วยวิธีการดังกล่าวแล้วยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาอย่างตรงจุดแทนจะดีกว่า ไม่ควรเขินอายหรือนิ่งนอนใจเด็ดขาด เพราะเชื้อราที่ขึ้นบริเวณขาหนีบนั้นอาจแพร่เชื้อจนลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของผิวหนัง ยิ่งหากเล็ดลอดเข้าสู่ภายในช่องคลอดก็อาจทำให้เกิดเชื้อราภายในช่องคลอดได้ ดังนั้น จึงควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้อง แล้วแพทย์จะจัดยามาให้รับประทานหรืออาจให้ยาทาตัวใหม่มา ซึ่งคุณควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะดีที่สุด และเมื่อพบว่าผลการรักษาดีขึ้นแล้วก็ควรรับประทานยาหรือทายาต่อไปอีกสักระยะ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อราหวนกลับมาเป็นซ้ำได้อีกนั่นเอง

โรคเชื้อราที่ขาหนีบ ภัยเงียบใต้ร่มผ้าที่ผู้หญิงต้องใส่ใจ!
โรคเชื้อราที่ขาหนีบ ภัยเงียบใต้ร่มผ้าที่ผู้หญิงต้องใส่ใจ!

วิธีป้องกันการเกิดเชื้อราที่ขาหนีบ

หลังจากสาวๆ รักษาเชื้อราที่ขาหนีบจนหายดีแล้ว สิ่งที่คุณควรทำต่อไปเพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมาขึ้นขาหนีบได้อีกคือ

– หมั่นรักษาความสะอาดของผิวบริเวณขาหนีบรวมถึงจุดซ่อนเร้นอยู่เสมอ

– หลีกเลี่ยงการสวมกางเกงหรือชุดรัดรูปเนื้อผ้าหนาๆ ที่มักก่อให้เกิดความอับชื้น

– หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว ควรซับผิวบริเวณขาหนีบและจุดซ่อนเร้นด้วยผ้าสะอาดให้แห้ง จากนั้นจึงสวมเสื้อผ้าที่ให้ความโปร่งเบาสบาย ระบายอากาศได้ดี โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนๆ แบบนี้ยิ่งควรใส่ใจการเลือกเนื้อผ้าที่สวมใส่มากเป็นพิเศษ

– ไม่ควรนุ่งกางเกงตัวเดียวซ้ำกันหลายครั้ง

– หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าขนหนู เสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เพราะเราไม่อาจรู้ได้ว่าคนที่เราใช้ของส่วนตัวด้วยมีปัญหาเชื้อราทางผิวหนังอยู่หรือไม่

เพิ่มความปลอดภัยให้น้องสาวด้วยการใช้ผ้าอนามัยอย่างถูกวิธี
โรคเชื้อราที่ขาหนีบ ภัยเงียบใต้ร่มผ้าที่ผู้หญิงต้องใส่ใจ!

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ หลังจากที่สาวๆ ได้รู้จักโรคเชื้อราที่ขาหนีบ วิธีรับมือรักษาและป้องกันการเชื้อราแล้ว จากนี้ไปหวังว่าคุณจะหันมาใส่ใจสุขภาพผิวทุกสัดส่วนกันมากยิ่งขึ้น เพราะอากาศร้อนๆ บางครั้งเชื้อราในร่มผ้าโดยเฉพาะจุดอับอย่างบริเวณน้องสาวของเราก็ง่ายต่อการเกิดสิ่งสกปรก จนเป็นแหล่งของเชื้อราซึ่งเป็นภัยเงียบอย่างที่เราไม่เคยรู้ตัว

แต่เมื่อทราบกันเช่นนี้แล้ว จากนี้สาวๆ จะต้องหันมาพึงระวังและใส่ใจดูแลสุขภาพผิวบริเวณขาหนีบรวมถึงจุดซ่อนเร้นให้เป็นอย่างดีกันด้วยนะคะ