สำหรับคุณแม่มือใหม่อาจจะยังไม่รู้ว่าอาการแบบไหนกันแน่ที่แสดงว่ากำลังจะคลอดแล้ว เพราะช่วงระหว่างตั้งครรภ์ก็ต้องมีอาการเจ็บท้องบ้างเป็นธรรมดา
โดยเหตุนี้ จึงอาจจะทำให้คุณแม่สับสนว่า.. เอ๊! เจ็บท้องแบบนี้ใช่อาการเจ็บท้องคลอดหรือเปล่านะ และควรไปโรงพยาบาลตอนไหนล่ะเนี่ย ดังนั้น เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าอาการแบบไหนที่บ่งบอกว่าคุณแม่ควรเตรียมตัวไปโรงพยาบาลได้แล้ว
อาการเริ่มแรก เมื่ออายุครรภ์เข้าสู่เดือนสุดท้าย
1. ท้องจะดูลดระดับต่ำลงมาจากที่มีขนาดใหญ่และอยู่ในระดับสูง เนื่องจากมดลูกเริ่มเคลื่อนต่ำลง เพื่อเตรียมพร้อมให้เด็กคลอดออกมาง่ายขึ้นนั่นเอง จึงทำให้ระดับท้องดูต่ำลงกว่าเดิมและดูเล็กลงกว่าเดิมได้ค่ะ
2. ปวดท้องน้อยบ่อยๆ และอาจจะมีอาการปวดท้องเหมือนจะอุจจาระแต่ไม่ใช่ นอกจากนี้ยังอาจจะมีอาการปวดหลังถี่ขึ้น จนแทบจะนอนหงายไม่ได้เลยล่ะ
3. อ่อนแรง รู้สึกเหนื่อยล้าได้ง่ายและไม่อยากจะขยับตัวทำอะไรเลย บางครั้งแค่เดินนิดเดียวก็รู้สึกเหนื่อยมากแล้ว
4. มีมูกเลือดออกมาจากช่องคลอด อาจเกิดขึ้นเนื่องจากใกล้คลอดเต็มทีแล้ว หรือเป็นเพราะเกิดการกระทบกระเทือนที่มดลูกได้ คุณแม่ต้องระวังให้มากๆ นะคะ
อาการเจ็บท้องเตือน
อาการเจ็บท้องเตือน เป็นอาการที่จะเกิดขึ้นก่อนเจ็บท้องจริงประมาณ 1 สัปดาห์หรือน้อยกว่านั้น ซึ่งจะคล้ายกับเจ็บท้องคลอดจริงมาก แต่จะมีความถี่ของการเจ็บน้อยกว่า ซึ่งจะมีอาการดังนี้
1. เจ็บท้องเป็นพักๆ แต่ไม่บ่อย
การเจ็บเตือนจะมีอาการเจ็บท้องเป็นพักๆ แต่ความถี่ของการเจ็บจะไม่บ่อย คือจะเจ็บนานครั้งและความเจ็บก็อยู่ในระดับที่คงที่ไม่รุนแรงขึ้นจากเดิม จนบางครั้งก็ดูเหมือนเจ็บท้องตามปกติเหมือนที่เจ็บในขณะช่วงตั้งครรภ์นั่นเอง แต่จะสังเกตุได้ว่าจะเจ็บแรงกว่าปกติทุกครั้ง และถี่กว่าปกติค่ะ
2. เจ็บท้องน้อย
เกิดการเจ็บท้องน้อย เพราะมดลูกบีบตัวมากขึ้น แต่จะต่างจากการเจ็บท้องจริงตรงที่ว่าไม่มีอาการปวดหลังด้วยนั่นเอง
3. เมื่อลุกขึ้นเดินจะเจ็บน้อยลง
อาการเจ็บเตือนจะบรรเทาลงได้เมื่อลุกขึ้นเดินหรือขยับร่างกายบ่อยๆ ดังนั้นหากรู้สึกเจ็บมาก ให้คุณแม่เดินบ่อยๆ จะลดความเจ็บได้ดี แต่ก็อย่าเดินเร็วเกินนะเพราะอาจทำให้มดลูกเกิดการกระทบกระเทือนได้
4. ลูกดิ้นแรงขึ้น
เมื่อใกล้คลอดเต็มที่ ลูกน้อยจะดิ้นแรงขึ้น เพื่อที่จะดันตัวเองออกมาให้เร็วที่สุด คุณแม่จึงสัมผัสได้จากการดิ้นที่แรงขึ้นของลูกน้อย แต่ยังไม่ต้องตกใจไปค่ะ เพราะนี่ยังเป็นแค่การเจ็บเตือนเท่านั้น
อาการเจ็บท้องคลอด
หลังจากที่เกิดอาการเจ็บเตือนประมาณ 1 สัปดาห์หรือ 4-5 วันแล้ว จะเริ่มมีอาการเจ็บท้องจริงเมื่อถึงเวลาที่ลูกน้อยจะออกมาเจอหน้าพ่อแม่แล้ว ซึ่งจะมีอาการดังนี้
1. มดลูกแข็งตัวถี่ขึ้น
เมื่อถึงเวลาคลอดมดลูกจะแข็งตัวถี่ขึ้น สามารถสัมผัสได้โดยเอามือวางที่บริเวณมดลูก จะรู้สึกว่ามดลูกแข็งตัวและแข็งตัวถี่ขึ้นมาก โดยระยะแรกๆ มดลูกจะแข็งตัวแค่แปปเดียวก็คลายออกแต่สักพักมดลูกก็จะแข็งตัวนานขึ้น นานขึ้น ซึ่งก็สร้างความเจ็บปวดให้กับคุณแม่ได้มากทีเดียว
2. ไม่ว่าจะทำอย่างไร ก็ไม่หายเจ็บ
โดยปกติเวลาเจ็บท้องเตือน แค่ขยับลุกขึ้นเดินก็จะทำให้อาการเจ็บบรรเทาลงแล้ว แต่หากเจ็บคลอดจริง ไม่ว่าจะขยับตัวอย่างไรอาการเจ็บปวดก็ไม่หายไปสักที
3. ปวดถ่ายอุจจาระ แต่ไม่ใช่
เมื่อมดลูกบีบตัวจะคลอดเต็มที จะเกิดการเบียดกันระหว่างมดลูกกับทวารหนัก ทำให้รู้สึกปวดอุจจาระอยู่บ่อยๆ แต่พอเข้าห้องน้ำก็ถ่ายไม่ออก ซึ่งแพทย์จะพยายามบอกคุณแม่ว่าห้ามเบ่งเด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เด็กหลุดออกมาก่อนเวลาได้นั่นเอง
4. น้ำคร่ำแตก
เมื่อน้ำคร่ำแตก คุณแม่จะมีอาการปวดถี่มากขึ้น โดยน้ำคร่ำที่แตกออกมานั้นจะมีลักษณะเป็นน้ำใสๆ เหมือนฉี่ แต่ออกมาเป็นจำนวนมาก
5. มีมูกเลือดออกมา
มูกเลือดที่ออกมาจะเป็นสีแดงสด โดยจะออกมาเรื่อยๆ โดยคุณแม่ไม่รู้ตัวเลยล่ะ ซึ่งหากคุณแม่ใส่ผ้าถุงอยู่ก็จะเห็นได้ว่ามีเลือดสีแดงสดติดอยู่ที่ผ้าถุงนั่นเอง
เหล่านี้คือ อาการบ่งบอกว่าคุณแม่ใกล้จะคลอดแล้วนั่นเอง ดังนั้น ควรทำความเข้าใจสัญญาณหรืออาการเจ็บท้องใกล้คลอดเนิ่นๆ ไว้ค่ะ จะได้รับมือทันการณ์กับการไปคลอดอย่างราบรื่นมากขึ้น