โรคเบาหวานเกิดขึ้นจากความผิดปกติในระดับฮอร์โมนอินสุลินซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยจะมีฮอร์โมนอินซูลินต่ำส่งผลให้เกิดน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และมีน้ำตาลขับออกมาทางปัสสาวะ อาการแรกที่ปรากฏคือผู้ป่วยจะปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำและมีอาการอ่อนเพลียง่าย เมื่อเป็นนานขึ้นจะมีอาการชาตามปลายมือและปลายเท้า ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดตามอวัยวะส่วนต่างๆ ผนังหลอดเลือดจะหนาขึ้นโดยเฉพาะหัวใจ ไตและดวงตา สำหรับการตรวจหาสาเหตุของการเป็นเบาหวานทำได้ด้วยการตรวจหาน้ำตาลผ่านปัสสาวะและการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหากพบว่ามีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติแสดงว่าผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวาน และวันนี้เราจะพาทุกท่านมาศึกษาทำความรู้จักกับอาการเบาหวานขึ้นตากัน เพื่อที่จะได้รับมือป้องกันไม่ให้เกิดอาการตามัวจนถึงขั้นทำให้ตาบอดตามมาภายหลังได้
เบาหวานขึ้นตา สาเหตุและอาการที่คุณควรรู้!
สาเหตุอาการตามัวเพราะเบาหวานขึ้นตา
โรคเบาหวานเมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับดวงตาได้ โดยอาจเกิดอาการตามัวก่อนและหากเป็นนานหลายปีอาจมีอาการหนักถึงขั้นตาบอดได้ สำหรับอาการตามัวจากเบาหวานนั้นเกิดขึ้นได้ดังนี้
ตามัวขณะที่ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูง
ผู้ป่วยจะมีอาการตามัวขณะที่ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นสูง เนื่องจากเลนส์ของตาเกิดการบวมน้ำ ลักษณะคล้ายคนตาสั้นเวลาที่มองภาพแล้วจะไม่สามารถโฟกัสภาพให้ชัดเจนขึ้นอีกได้ แต่อาการเหล่านี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากสามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่ปกติสายตาก็ย่อมกลับมามีสภาพดีดังเดิมได้
ตามัวจากการเกิดต้อกระจก
ผู้ที่ป่วยเป็นเบาหวานมานานเลนส์ตาที่เคยใสจะเริ่มขุ่นหรือที่เรียกกันว่า “ต้อกระจก” โดยเกิดจากน้ำตาลในเลือดเกิดการเปลี่ยนแปลงมาเป็นสารซอบิตอลและฟรุกโตส สารเหล่านี้จะสะสมในเลนส์ตาทำให้เกิดเลนส์ตาขุ่นกระทั่งบดบังแสงไม่ให้ลอดส่องผ่านเข้ามายังนัยน์ตาได้ วิธีรักษาหากพบว่าต้อกระจกขุ่นมากจะต้องผ่าตัดเอาเลนส์ที่ขุ่นนั้นออกอีกทั้งผู้ป่วยจะต้องใส่แว่นตาเพื่อรักษาความคมชัดของการรับภาพไว้
ตามัวเนื่องจากการเกิดต้อหิน
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานสามารถเป็นต้อหินได้เช่นกัน เพราะเกิดจากเส้นเลือดที่มีความผิดปกติบริเวณม่านตาหรือในส่วนตาดำที่มองภาพเห็น โดยเส้นเลือดนี้จะเข้าไปอุดทางเดินน้ำภายในลูกตาทำให้เกิดความดันตาขึ้นสูง ผู้ป่วยจะมีอาการปวดตา ตามัวและหากปล่อยให้เป็นนานมากเข้าความดันในตาจะกดให้ประสาทตาฝ่อและอาจลุกลามจนถึงขั้นทำให้ตาบอดตามมาได้ค่ะ
ตามัวเพราะการเปลี่ยนแปลงของจอประสาทตา
เกิดจากจุดรับภาพของจอประสาทตาบวมโดยจะมีเลือดออกภายในลูกตาดำ และเยื่อพังผืดจะดึงรั้งให้จอประสาทตาลอก สำหรับผู้ที่ป่วยเบาหวานมานานจอประสาทตาจะเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยอาการเริ่มแรกนั้นหลอดเลือดฝอยที่ประสาทตาจะมีอาการโป่งพองและอาจถึงขั้นแตกเป็นจุดเลือดออกจุดเล็กๆ อีกทั้งยังอาจพบไขมันออกจากผนังหลอดเลือดเหล่านี้ด้วยและถ้าเกิดขึ้นอยู่ในบริเวณของจุดรับภาพก็ย่อมทำให้เกิดอาการตามัวและมองภาพได้ไม่ชัดเจนกรณีผู้ที่ป่วยมานานนับสิบๆ ปี จอประสาทตาส่วนที่ขาดเลือดจะได้รับการกระตุ้นให้เกิดเส้นเลือดขึ้นใหม่ แต่จะมีผนังเปราะและค่อนข้างแตกออกได้ง่าย อีกทั้งในระยะที่มีเส้นเลือดเกิดขึ้นผิดปกตินี้ย่อมอันตรายอย่างมากเนื่องจากเส้นเลือดเกิดการแตกง่ายทำให้มีเลือดออกภายในลูกตาและอาจเกิดตามัวลงได้ทันที นอกจากนี้แล้ว ผู้ป่วยก็อาจมีเนื้อเยื่อซึ่งมีลักษณะคล้ายพังผืดงอกออกมาตามเส้นเลือดและดึงรั้งให้ชั้นของประสาทตาลอกจนถึงขั้นทำให้ดวงตาบอดได้ สำหรับการเปลี่ยนแปลงของชั้นประสาทตานี้เกี่ยวเนื่องกับความสัมพันธ์สำหรับระยะเวลาที่ป่วยเป็นเบาหวาน หากเป็นเบาหวานมานาน 15 ปีแล้วย่อมมีโอกาสเกิดการเปลี่ยนแปลงของจอประสาทตา 50-60% และอาจเกิดอาการตาบอดได้ 1-2%
เพราะฉะนั้น เพื่อการป้องกันไม่ให้เกิดเบาหวานขึ้นตาจนมีอาการตามัวและอาจส่งผลให้ตาบอดภายหลัง แนะนำให้เร่งรีบใส่ใจดูแลสุขภาพอย่าปล่อยให้เป็นโรคเบาหวานกันตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่าหรือหากตรวจพบเบาหวานในระยะเริ่มต้นใหม่ๆ แล้วก็ควรพบแพทย์ตรวจอย่างละเอียดและเข้ารับการตรวจตามนัดเพื่อให้อยู่ภายใต้ความดูแลของแพทย์เสมอจะดีกว่าค่ะ