วัยรุ่นคือวัยที่ร่างกายและจิตใจกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง ซึ่งถ้าหากว่าเราสามารถที่จะเข้าใจการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ของพวกเขาได้ดีพอ ก็จะเป็นทางที่ดีที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งระหว่างความคิดของสองช่วงวัยระหว่างพ่อแม่และตัวเด็ก ทำให้เด็กสามารถที่จะก้าวเดินไปบนเส้นทางที่ถูกต้องเหมาะสมตามแบบฉบับของวัยรุ่นที่มีคุณภาพได้อย่างมีความสุข

เราจะสังเกตเห็นได้ว่าลูกน้อยของเรานั้นเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่กระบวนการเจริญเติบโตของวัยหนุ่มสาวมากขึ้น และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ก็แตกต่างกันออกไปตามปัจจัยอื่นๆ ทั้งพันธุกรรม เพศ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม สังคม และระบบการศึกษา
การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของวัยหนุ่มสาว
โดยทั่วไปแล้วเด็กผู้หญิงจะมีการเจริญเติบโตที่ไวกว่าเพศชายมาก การเข้าสู่วัยรุ่นของเด็กจะมีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกันออกไป หรือใช้ระยะเวลาที่ไม่ตายตัว การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะรวมทั้งการเจริญเติบโตขึ้นของสรีระร่างกาย จิตใจ ความนึกคิด มุมมองและทัศนะคติ ร่างกายของเด็กผู้หญิงจะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 1 ปีแรก ก่อนมีประจำเดือน และสามารถเติบโตต่อไปได้อีกประมาณ 4 ปี ดังนั้นเด็กผู้หญิงจะเข้าสู่ช่วงของการเจริญเติบโตสูงสุดในช่วงอายุ 15-17 ปี
สำหรับในเด็กชายจะมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วหลังจากมีการหลั่งอสุจิ ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ อย่างเช่น การฝันเปียก หรือเด็กเริ่มรู้จักการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง และจะเริ่มเจริญเติบโตต่อไปได้อีกประมาณ 4-8 ปี ร่างกายจะเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ในช่วงอายุประมาณ 19-21 ปี แต่ทว่าในปัจจุบันร่างกายของเด็กมีการเจริญเติบโตที่รวดเร็วขึ้นอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงทางโภชนาการที่ดีขึ้น อีกทั้งยังมีกิจกรรมส่งเสริมต่างๆ ให้แก่เด็ก เป็นกระบวนการเสริมสร้างทักษะให้เด็กมีร่างกายที่แข็งแรง จากในวัยเด็กเมื่อเริ่มเติบโตขึ้น ผู้หญิงจะเริ่มมีขนาดของเต้านมใหญ่ขึ้น เริ่มมีส่วนเว้าโค้งและขนที่อวัยวะเพศ ส่วนในเด็กชายจะมีพละกำลังสูงขึ้น อวัยวะเพศเริ่มขยายขนาด มีขนที่รักแร้และอวัยวะเพศ รวมไปถึงเสียงที่ห้าวขึ้น
ในช่วงวัยเหล่านี้เด็กจะเริ่มมีความคิดและใส่ใจตัวเองมากขึ้น เริ่มมีการสนใจเพศตรงข้ามและอ่อนไหวต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น ทำให้เด็กพยายามที่จะต้องการมีสิ่งต่างๆ ให้เหมือนคนอื่น มีอารมณ์หงุดหงิด โกรธ และวู่วามได้ง่าย โดยเฉพาะในเพศหญิง ส่วนในชายมักจะแสดงออกมาเป็นอารมณ์ของความก้าวร้าว
สิ่งที่พ่อแม่หรือผู้ปกครองควรให้ความใส่ใจสำหรับเด็กในช่วงวัยนี้ก็คือ การสร้างความเข้าใจและไม่ดุด่าลูกหรือตำหนิกับพฤติกรรมต่างๆ พยายามเปิดอิสระให้กับเด็ก แต่ให้อยู่ในสายตา และคอยบอกเตือนด้วยความสุภาพและใจเย็น จะทำให้เด็กเชื่อฟังและไม่ปลีกตัวออกห่างจนกลายเป็นปัญหาของสังคมเอาได้