เกิดเป็นผู้หญิงแท้จริงแสนลำบาก เพราะนอกจากจะต้องหมั่นดูแลใส่ใจเรื่องความงามภายนอกกันแล้ว เรื่องภายในร่างกายอย่างเต้านมก็ต้องได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถันตลอดเวลาเช่นกัน เพราะฉะนั้น ได้เวลาแล้วที่คุณผู้หญิงจะมาเจาะลึกเรื่องที่คุณต้องใส่ใจกับ 8 ปัญหาภาวะเต้านมผิดปกติไปพร้อมกับเรา เพื่อที่สุขภาพเต้านมและร่างกายของคุณจะได้แข็งแรง ปราศจากโรคร้ายต่างๆ มาเยือนในอนาคตโดยที่เราไม่รู้ตัวนั่นเองค่ะ
เจาะลึกเรื่องที่ผู้หญิงต้องใส่ใจกับ 8 ปัญหาภาวะเต้านมผิดปกติ
1. เต้านมเกิน
ปัญหาการเกิดเต้านมเกินมักพบบริเวณรักแร้ บ้างครั้งอาจพบว่ามีหัวนมเกินร่วมด้วยซึ่งพบได้บริเวณตามแนวรักแร้ลงมาตามท้องจนถึงขาหนีบ แต่ภาวะนี้จะมีอาการเด่นชัดก็ต่อเมื่อมีอายุมากขึ้นหรือในช่วงตั้งครรภ์ มีลูก บางคนอาจจะมีน้ำนมไหลออกมาร่วมด้วย หากสังเกตจะพบว่าเป็นก้อนเนื้อห้อยบริเวณรักแร้แต่ภาวะนี้จะไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อสุขภาพให้น่ากังวลหรอกค่ะ เพียงแต่จะทำลายความงามของผู้หญิงเราได้ แนะนำทางแก้ไขคือต้องผ่าตัดเอาก้อนเนื้อเกินเหล่านี้ออกไปเท่านั้น
2. เต้านมมีขนาดโตไม่เท่ากัน
โดยปกติ เต้านมคนเราทั้งสองข้างบางครั้งก็โตไม่เท่ากัน แต่ส่วนใหญ่ก็มีความแตกต่างกันไม่มากนัก ทั้งนี้ อาจเกิดจากความแน่นของเต้านมที่อาจไม่เท่ากันนั่นเอง โดยเกิดขึ้นได้จากเนื้อเต้านมมีการตอบสนองต่อฮอร์โมนเพศไม่เท่ากัน แต่หากพบว่ามีเต้านมทั้งสองข้างมีขนาดไม่เท่ากันอย่างเด่นชัดนักก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยการผ่าตัดลดขนาดเต้านมเพื่อให้เท่าเทียมกันทั้งสองข้างโดยเสริมข้างที่เล็กกว่าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น
3. เต้านมโตเกิน
เต้านมมีขนาดโตเกิน ปัญหานี้มักเกิดกับสาวๆ ช่วงวัยอายุ 13-35 ปี โดยเต้านมจะมีการขยายใหญ่โตมากกว่าปกติ การที่เต้านมใหญ่เกินอาจจะมีผลต่อจิตใจโดยเฉพาะกับวัยรุ่นสาวๆ แต่ก็ไม่มีอันตรายใดๆ ต่อสุขภาพตามมา มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นค่ะ ที่จะเกิดผลเสียต่อน้ำหนักของเต้านมที่มากเกินไป จนอาจก่อให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดไหล่และมีความอับชื้นบริเวณราวนมได้ หากมีอาการดังกล่าวซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพตามมา สามารถแก้ไขโดยการผ่าตัดลดขนาดเต้านมให้เล็กลงได้ค่ะ
4. หัวนมบอด
ลักษณะของหัวนมบอดจะมีหัวนมบุ๋มลงไปในเต้านม เป็นความผิดปกติในช่วงการพัฒนาของเต้านมและมีการหยุดเจริญของหัวนมก่อนกำหนด จึงส่งผลให้หัวนมหดสั้นอีกทั้งเนื้อเยื่อพังผืดยังดึงรั้งจนมีผลทำให้การทำความสะอาดหัวนมลำบากตามมาอีกด้วย ภาวะนี้อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้ง่ายๆ และที่สำคัญหากคุณปล่อยไว้ไม่รีบเร่งทำการรักษาหัวนมบอดให้มีสภาพปกติทั่วไป ยังส่งผลต่อการให้นมบุตรได้ลำบากอีกด้วยนะคะ เพราะเด็กจะดูดนมลำบาก สำหรับกรณีที่ไม่ได้มีอาการมากเท่าไรนัก สามารถแก้ไขด้วยตนเองง่ายๆ โดยการหมั่นดึงและนวดเต้านมบ่อยๆ ทำเช่นนี้เป็นประจำทุกวันตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ภาวะการตั้งครรภ์ แต่หากมีปัญหาหัวนมบอดภายหลังช่วงวัยรุ่น ก็จงตระหนักเอาไว้เสมอว่าอาจเกิดจากความผิดปกติและที่สำคัญนั่นอาจเป็นอาการบ่งเตือนให้คุณรีบมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจะดีกว่า
5. อาการปวดเต้านมระหว่างมีรอบเดือน
เป็นเรื่องปกติธรรมดา หากจะมีอาการปวดเต้านมในช่วงมีรอบเดือน เพราะเป็นอาการที่พบได้กับสาวๆ โดยส่วนใหญ่ หลายคนก็อาจจะไปพบแพทย์เพื่อรักษาเพราะหวั่นเกรงว่าจะมีเป็นอาการของมะเร็งเต้านม แต่แท้จริงแล้ว มะเร็งเต้านมมักตรวจพบก้อนเนื้อได้ก่อนและมักไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ ร่วมด้วย ดังนั้น การปวดเต้านมแต่เพียงอย่างเดียวโดยที่ตรวจไม่พบความผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ก็ไม่จำเป็นต้องทำการรักษา เนื่องจากสามารถเกิดขึ้นได้ตามสภาวะปกติทางธรรมชาติของร่างกายผู้หญิงเรา แต่หากในบางรายมีอาการเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็แนะนำให้พบแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาก็นับว่าเป็นทางออกที่เหมาะสมแล้วค่ะ
6. เนื้องอกชนิดธรรมดาหรือก้อนไฟโบรอะดีโนมา (Fibroadenoma)
ก้อนเนื้อในเต้านมนี้สามารถคลำพ้บก้อนได้ตั้งแต่ในวัยรุ่นและอาจพบได้บ่อยๆ โดยเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์มักเป็นก้อนเนื้องอกแบบธรรมดา เกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมนเพศในช่วงที่เต้านมมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปตามสรีระในร่างกาย โดยปกติก้อนเนื้อจะมีขนาดใหญ่ไม่เกิน 2 เซนติเมตร จะค่อยๆ โตขึ้นอย่างช้าๆ และไร้ซึ่งอาการเจ็บปวดใดๆ ตามมา ลักษณะของก้อนจะกลมกลิ้งไปมาสามารถพบได้ การตรวจพบก้อนเนื้อชนิดนี้ในช่วงแรกๆ และหากได้ตรวจวินิจฉัยแล้วอาจจะไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเอาออกเสมอไป เพราะจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็นก้อนเนื้อร้ายในภายหลังนั่นเอง นอกจากนี้ ยังมีกรณีศึกษาพบว่า 1 ใน 3 ของก้อนที่ตรวจพบสามารถฝ่อหรือยุบตัวลงได้เองโดยธรรมชาติ ในขณะที่อีก 1 ใน 3จะสามารถโตขึ้นเองได้เรื่อยๆ และอีกส่วนหนึ่งก็จะมาขนาดคงที่ไม่เติบโตขึ้นหรือยุบตัวลง ยกเว้นในก้อนที่มีขนานใหญ่กว่า 2 เซนติเมตรหรือมีขนาดโตขึ้นมากกว่านั้นก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยเพิ่มจะดีกว่า
7. ซีสต์หรือถุงน้ำที่เต้านม
เกิดขึ้นได้จากการสภาวะการถูกกระตุ้นจากฮอร์โมนในช่วงที่มีรอบเดือน โดยจะมีการสร้างสารน้ำต่างๆ ขึ้นในบริเวณเต้านม เมื่อมีกระบวนการสร้างสารน้ำและดูดกลับคืนแบบไม่สมดุลกันก็จะส่งผลให้เกิดเป็นถุงน้ำค้างอยู่ ซีสต์อาจมีขนาดก้อนโตขึ้นเล็กน้อยหรือสามารถหายขาดไปเองได้ตามช่วงต่างๆ ของรอบเดือน ซีสต์หรือถุงน้ำนี้พบได้บ่อยเมื่อผู้หญิงเราอายุมากขึ้นและอาจจะมีอาการปวดบริเวณก้อนดังกล่าวร่วมด้วย ในสตรีวัยหมดประจำเดือนซีสต์ก็จะค่อยๆ เลือนหายไปเอง แต่หากใครที่มีอาการปวดร่วมด้วยหรือหากซีสต์มีขนาดก้อนเนื้อที่ใหญ่ สามารถแก้ไขโดยการใช้เข็มที่สะอาดเจาะดูดเอาน้ำออกก็เป็นการรักาที่เพียงพอแล้ว แต่ในกรณีที่เจาะดูดเอาน้ำออกมามีคราบเลือดปะปนมาพร้อมกันก็อาจจะต้องส่งไปตรวจเพิ่มเติมเพื่อวินิจฉัยต่อว่าไม่มีเซลล์หรือก้อนเนื้อใดๆ ผิดปกติปะปนในเต้านมร่วมด้วย
8. มะเร็งเต้านม
พบมากในผู้หญิงที่อายุ 40 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันสามารถตรวจพบได้แม้กระทั่งผู้หญิงที่อายุน้อยลงไปด้วย อาการที่ตรวจพบได้บ่อยที่สุดก็คือการคลำพบก้อนโดยไร้อาการปวดหรือเจ็บใดๆ แต่หากสามารถตรวจพบมะเร็งได้ในระยะเริ่มต้นก็จะมีโอกาสในการรักษาให้ขาดหายได้สูง นอกจากนี้ อาการผิดปกติอื่นๆ ที่สามารถพบร่วมกันคือ มีน้ำหรือมีเลือดไหลออกจากหัวนม เกิดแผลบริเวณลานนม หัวนมบุ๋มหรือบอด ผิวหนังของเต้านมบวมหรือมีลักษณะถูกดึงรั้ง ก้อนจะมีขนาดโตขึ้นและไร้ซึ่งอาการเจ็บปวด สามารถคลำพบก้อนได้แบบไม่ชัดเจนหรืออาจคลำพบก้อนในบริเวณรักแร้ร่วมด้วย เป็นต้น
หากตรวจพบความผิดปรกติหรือโรคต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้วควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคเพิ่มเติมและทำการรักษาต่อไป แต่ทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงทุกคนคือ การรู้จักหมั่นตรวจสอบสภาพร่างกายและดูแลเต้านมของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
หากสาวๆ ตรวจพบความผิดปกติดังข้อต่างๆ หรือข้อใดข้อหนึ่งดังที่เรากล่าวมา ไม่ควรนอนนิ่งเฉย เพราะอาจจะเป็นสัญญาณเตือนมะเร็งเต้านมหรือโรคต่างๆ ที่อาจจะตามมาในอนาคตได้ ดังนั้น ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาโรคเพิ่มเติมและทำการรักษาให้ทันท่วงทีต่อไป เพื่อการมีสุขภาพที่ดีของผู้หญิงเรา คุณจึงควรหมั่นดูแลตรวจสอบร่างกายตนเอง พร้อมเช็คสภาพเต้านมอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เกิดภาวะผิดปกติ จนอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพตามมาในอนาคตได้