สาวๆ หลายคนชื่นชอบการทานเมนูเส้นกันเป็นอย่างมาก แต่ปัญหาก็คือ เราจะเลือกทานอย่างไรไม่ให้กระทบหุ่นสวย บางคนก็กลัวว่าทานมากจะทำให้น้ำหนักขึ้นกระฉูดจนต้องอยู่แบบทนอดทนอยาก และก็ต้องหักห้ามใจจนถึงขั้นทรมานตัวเองไปตามๆ กัน
วันนี้ทางเราจะมาบอกให้รู้ว่าเส้นแต่ละชนิดที่เรานำมาทำอาหารให้พลังงานเท่าไรบ้าง รอบหน้าต่อไปก่อนจะสั่งเมนูใด สาวๆ จะได้ยิ่งตัดสินใจง่ายขึ้น
วุ้นเส้น : พลังงาน 330 กิโลแคลอรี่
ทำเอาสาวเล็กสาวใหญ่เป็นต้องแอบตกใจไปตามๆ กันเลยทีเดียว พอเห็นตัวเลขพลังงานแบบนี้แล้วอย่าเพิ่งคิดว่าวุ้นเส้นจะทำให้อ้วนเสมอไปนะคะ เนื่องจากวุ้นเส้นนั้นมีน้ำหนักที่เบามาก โดย 1 ซอง หนักแค่ประมาณ 50 กรัมเท่านั้น แต่ที่เราทานกันก็ไม่ถึง 100 กรัมหรอกค่ะ สำหรับวุ้นเส้นแม้ว่าจะทำมาจากถั่วเขียวซึ่งหลายคนเข้าใจว่ามันให้โปรตีน แต่เพราะกระบวนการผลิตอันหลากหลายทำให้โปรตีนถูกคัดออกไปจนเหลือเพียงแป้ง อีกทั้งยังมีการผสมแป้งมันลงไปเพิ่มเพื่อลดต้นทุนการผลิตร่วมด้วย ดังนั้น สาวๆ ที่กินแล้วอาจจะรู้สึกได้ว่ามันไม่เหนียวเมื่อเทียบกับวุ้นเส้นถั่วเขียว 100% แท้
เส้นบะหมี่ : พลังงาน 300 กิโลแคลอรี่
เส้นบะหมี่สีเหลืองเหนียวนุ่มละมุนลิ้นนั้นผลิตมาจากแป้งสาลีค่ะ สำหรับแป้งสาลีก็ให้โปรตีนสูงเช่นกัน และยังได้รับประโยชน์จากสารแคโรทีนอยด์รวมถึงฟลาโวนอยด์ อันเป็นสารต้านอนุมูลิสระที่อยู่ในกลุ่มวิตามินเออีกด้วย ในขณะที่เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ถึงแม้จะเป็นสีเหลืองก็ตาม หากก็ผ่านกระบวนการทอดและปรุงรสจนมีแต่โซเดียมและไขมันสูง ในปริมาณ 1 ซอง (60 กรัม) ยังให้พลังงานมากถึง 280 กิโลแคลอรี่อีกด้วย ถือว่าเป็นพลังงานที่ได้จากไขมันตั้งเกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้น หากสาวๆ ต้องการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจริงๆ แนะนำให้เติมผักและเนื้อสัตว์ต่างๆ ลงไปผสมเพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารและไฟเบอร์อย่างครบถ้วนมากขึ้นค่ะ
เส้นขนมจีน : พลังงาน 80 กิโลแคลอรี่
เส้นขนมจีนเป็นเส้นที่ทำมาจากแป้งสาลีเช่นกันกับเส้นก๋วยเตี๋ยว แต่จะนำแป้งมาหมักแช่น้ำเอาไว้ก่อน จากนั้นจึงนำไปผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อให้ได้เป็นเส้นขนมจีนสีขาวสวย โดยมากมักจะเป็นเส้นที่ทำสดใหม่วันต่อวัน เส้นขนมจีนจะมีน้ำเป็นองค์ประกอบอยู่มากและยังให้พลังงานต่ำกว่าเส้นก๋วยเตี๋ยว หากก็มีข้อเสียตรงที่ว่ากินแล้วจะไม่ค่อยอยู่ท้องนาน สำหรับวิธีเลือกซื้อขนมจีนแนะนำให้ซื้อสีที่ดูเป็นธรรมชาติ ไร้ซึ่งการแต่งเติมสีเพิ่ม ซื้อมาแล้วก็ควรกินในวันเดียวให้หมด ไม่ควรเก็บแช่ตู้เย็น เพราะแม้จะทำมาจากแป้งหมัก แต่ก็เป็นอาหารที่ไม่ควรเก็บไว้ข้ามวันค่ะ
เส้นก๋วยเตี๋ยว : พลังงาน 150-220 กิโลแคลอรี่
เส้นก๋วยเตี๋ยวจะมีลักษณะตั้งแต่เส้นเล็ก ใหญ่และมีเส้นหมี่เล็กๆ ซึ่งแต่ละเส้นก็มีความแตกต่างกันไป แต่ทั้งหมดนี้ก็ทำมาจากแป้งข้าวเจ้าเช่นกัน และยังให้พลังงานแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับความชื้นในแต่ละเส้นนั่นเอง สำหรับเส้นใหญ่จะให้แคลอรี่สูงมากที่สุด เนื่องจากมันเป็นเส้นที่ผ่านการเคลือบน้ำมันด้วย โดยปริมาณ 100 กรัมจะให้พลังงาน 220 กิโลแคลอรี่ ขณะที่เส้นเล็กให้พลังงาน 180 กิโลแคลอรี่ และเส้นหมี่จะให้พลังงานประมาณ 150 กิโลแคลอรี่
เส้นแก้ว : พลังงาน 20 กิโลแคลอรี่
ลักษณะเป็นเส้นแก้วใสๆ ที่คล้ายกับวุ้นเส้น แต่จะอวบและกรุบมากกว่า เส้นแก้วทำมาจากสาหร่ายทะเลสีน้ำตาล ปริมาณ 100 กรัม มีคาร์โบไฮเดรตน้อยประมาณ 4 กรัม นอกจากนี้แล้วยังให้ใยอาหารสูง เหมาะสำหรับสาวๆ ที่ต้องการกินเพื่อลดน้ำหนักและผู้ที่เป็นเบาหวานก็เหมาะสมในการนำมารับประทานเช่นกัน เส้นแก้วจะมีความแตกต่างจากเส้นบุกตรงที่มันมีโซเดียมและแคลเซียมอยู่บ้างเล็กน้อย อีกทั้งเส้นแก้วยังสามารถนำมากินสดได้เลย แต่สำหรับใครที่ไม่ชอบรสชาติอันจืดชืดรวมถึงความกรุบก็สามารถนำไปปรุงรสใหม่ และผ่านกรรมวิธีที่ให้ความร้อนจนเส้นนุ่มตัวลงก็ได้เหมือนกัน แต่อาจจะต้องใช้เวลานานมากกว่าเส้นอื่นๆ
เส้นบุก : พลังงาน 10 กิโลแคลอรี่
เป็นเส้นที่มีลักษณะหนึบๆ โดยผ่านการแปรรูปจากหัวบุกที่มีเส้นใยสูง ที่สำคัญยังให้พลังงานต่ำมาก ในหัวบุกยังมีสารแป้งที่เรียกว่า ‘แมนแนน’ เมื่อมันแตกตัวก็จะกลายมาเป็นน้ำตาลกลูโคสและแมนโนส จากงานวิจัยหลายชิ้นได้ให้การยืนยันว่า ท่ามกลางกระบวนการย่อยแมนโนสจะถูกดูดซึมช้ากว่ากลูโคส ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ มันจึงเป็นเส้นที่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวาน รวมถึงคนที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมอาหาร เส้นบุกนั้นจะมีทั้งแบบที่เป็นเส้นใสๆ และแบบที่ผสมกับสาหร่ายทะเลเพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ หากก็ให้พลังงานต่ำเช่นเดียวกันค่ะ สำหรับการปรุงนั้นแนะนำให้ลวกในน้ำเดือดจัดก็จะได้เส้นบุกที่นุ่มกำลังน่ารับประทาน
จากนี้ก็พอจะทราบกันแล้วนะคะสาวๆ ว่าเมนูอาหารแต่ละประเภทที่ประกอบด้วยเส้นแต่ละชนิดนั้นให้พลังงานกี่แคลอรี่กันบ้าง ใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ หวังว่าคราวหน้าคุณจะเลือกเส้นอาหารที่ไม่ทำร้ายรูปร่างกันได้ง่ายขึ้นแล้วนะจ๊ะ