อาหารเพื่อสุขภาพในปัจจุบันมีให้เลือกทานด้วยกันหลากหลาย โดยเฉพาะอาหารต้านมะเร็งซึ่งได้จากผักเหล่านี้ เชื่อว่าหลายคนจะต้องไม่อยากพลาดกันอย่างแน่นอน วันนี้เรามาดูกันนะคะว่าผักต้านมะเร็งมีอะไรบ้าง ใครที่กลัวโรคมะเร็งมาเยือน รีบหันมากินผักเหล่านี้เป็นประจำได้เลย
1.คะน้า
ผักที่เปี่ยมไปด้วยวิตามินเอสูง โดยมีคุณสมบัติเป็นสารต้านการเกิดเซลล์มะเร็ง ทำหน้าที่ส่งเสริมภูมิคุ้มกันภายในร่างกาย ช่วยลดโอกาสของการเกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อและช่วยลดความเสี่ยงจากอาการเจ็บป่วยโดยรวมของร่างกายได้
2.ตำลึง
ตำลึงนับเป็นผักใบเขียวที่อุดมด้วยวิตามินเอสูงมากเช่นกัน และยังมีแคลเซียม วิตามินซี รวมถึงฟอสฟอรัส มาพร้อมคุณสมบัติช่วยแก้อาการแพ้ แก้อักเสบ ป้องกันโรคโลหิตจางและป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด รวมถึงคุณสมบัติในการช่วยต้านมะเร็งได้
3.กะหล่ำปลี
ข้อมูลจากสภากาชาดไทยได้ระบุไว้ว่า กะหล่ำปลีซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกในประเทศไทยนั้นจะมีคุณสมบัติสามารถยับยั้งหรือช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งเต้านมได้เป็นอย่างดี เพราะผักประเภทหัวนี้อุดมด้วยซีลีเนียมปริมาณสูง ซึ่งสารนี้เองที่จะช่วยกำจัดอนุมูลอิสระจากในร่างกาย ไม่เพียงเท่านั้น ยังพบอีกด้วยว่าสารอาหารจากในกะหล่ำปลียังมีคุณสมบัติในการกระตุ้นเอนไซม์ซึ่งมีบทบาทหน้าที่ในการกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี กินกะหล่ำปลีเป็นประจำจึงสามารถช่วยลดโอกาสที่เซลล์จะกลายไปเป็นเซลล์มะเร็งร้ายได้นั่นเอง
4.กะหล่ำปลีสีม่วง
ในพืชผักสีม่วงทุกชนิดล้วนมีสารแอนโทไซยานิน ซึ่งเป็นสารที่มีคุณสมบัติต้านการเกิดเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี โดยในกะหล่ำปลีม่วงนั้นก็ยังมีสารฟลาโวนอยด์อันเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง และยังมีสารซัลเฟอร์ที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ นอกจากนี้ ยังช่วยต้านสารก่อมะเร็งไม่ให้เข้าสู่ร่างกายได้อีกด้วย
5.ผักกาดขาว
ในผักกาดขาวมีสารสีขาวที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย โดยจะให้เบต้าแคโรทีนสูง และตับก็ยังสามารถเปลี่ยนจากสารชนิดนี้ให้กลายมาเป็นวิตามินเอที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็งภายในร่างกายได้อีกด้วย นอกจากนี้ เส้นใยจากผักกาดขาวยังมีส่วนกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ ช่วยด้านระบบย่อยอาหาร ป้องกันการแข็งตัวของอุจจาระ ส่งผลทำให้การขับถ่ายเป็นไปอย่างคล่องตัว ไม่มีปัญหาท้องผูกนั่นเอง
6.ถั่วงอก
ถั่วงอกเป็นผักที่มีสารต้านมะเร็งที่ชื่อ "ซัลโฟราเฟน" โดยมีสารชนิดนี้สูงกว่าถั่วปกติมากถึง 50 เท่า นอกจากนี้ ยังมีวิตามินซีสูงจึงสามารถช่วยสมานแผล ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก และทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานสูงยิ่งขึ้น
7.ใบกะเพรา
กะเพราเป็นสมุนไพรยอดนิยมที่มีวิตามินเอสูงมาก โดยมีคุณสมบัติช่วยในการต้านมะเร็ง และยังช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง พร้อมกันนี้ ใบกะเพรายังสามารถนำมาใช้ด้านการรักษาโรคที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับหัวใจ ระบบทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจและโรคผิวหนังมาตั้งแต่สมัยโบราณเลยทีเดียว
8.แครอท
แครอทนอกจากจะมีเบต้าแคโรทีนที่ช่วยเปลี่ยนวิตามินเอในตับได้แล้ว ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างแคโรทีนอยด์และสารไบโอฟลาโวนอยด์ที่ช่วยต้านเซลล์มะเร็ง จึงสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งปอดและมะเร็งมดลูกได้
9.มะระขี้นก
ภายใต้รสชาติอันแสนขมของมะระขี้นกนั้นเองที่อุดมไปด้วยวิตามินเอที่มีส่วนช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี และยับพบอีกด้วยนะคะว่ามะระขี้นกนั้นยังมีสารสำคัญที่สามารถออกฤทธิ์ต้านไวรัสและช่วยฆ่าเซลล์มะเร็งเต้านม รวมถึงเซลล์มะเร็งสมองได้ดีอีกด้วย
10.บรอกโคลี
บรอกโคลี ผักเพื่อสุขภาพที่ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยบรอกโคลีนั้นเป็นแหล่งของวิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบีและพิกเมนต์คลอโรฟิลล์ นอกจากนี้ ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างสารฟลาโวนอยด์ที่จะช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
11.ลูกยอ
ลูกยอ อีกหนึ่งผักสมุนไพรพื้นบ้านที่คนไทยนิยมใช้เป็นยาอายุวัฒนะมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยยอนั้นมีวิตามินซีสูง กินแล้วจะช่วยบำรุงธาตุได้ดี และผลจากการทดลองในสัตว์ก็ได้ค้นพบว่า ลูกยอมีสารที่มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็งระยะแรกได้ และสารนี้ก็ยังสามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดี จึงช่วยต้านมะเร็งได้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอจะมีประโยชน์ หากแต่ก็มีโทษหรือข้อควรระวังในการรับประทานเช่นกัน เพราะยอเป็นผักที่อุดมไปด้วยโพแทสเซียมปริมาณค่อนข้างสูง ทานแล้วอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผู้ป่วยโรคไตและโรคหัวใจได้ เพราะฉะนั้นผู้ป่วยด้วย 2 โรคดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงการทานลูกยอ แต่เน้นไปทานผักต้านมะเร็งชนิดอื่นแทนจะดีกว่า
12.ใบบัวบก
ใบบัวบกและในส่วนของต้นสดล้วนเป็นแหล่งของวิตามิน ทั้งยังมีแคลเซียมสูงมากทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น ใบบัวบกยังมีวิตามินบี 1 และถือเป็นพืชที่ประกอบไปด้วยไกลโคไซด์โดยมีคุณสมบัติช่วยให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันของผิวหนังมีความแข็งแรงยิ่งขึ้น ทำให้ผิวหนังเรียบเนียนเต่งตึงและมีสุขภาพดี นอกจากนี้ สรรพคุณจากใบบัวบกยังช่วยบรรเทาอาการเส้นเลือดขอด ผิวด่างดำและช่วยลดรอยแผลเป็นให้จางลงได้
ในส่วนของสารสกัดจากใบบัวบกก็ยังพ่วงมาพร้อมสรรพคุณที่จะช่วยให้แผลหายเร็ว ช่วยเร่งการสร้างเนื้อเยื่อและเยื่อบุเซลล์ใหม่ ช่วยระงับการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้เป็นหนองและการอักเสบ นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว และกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือดให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้สามารถทำลายแบคทีเรียได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้นี่เอง ใบบัวบกจึงนับเป็นสุดยอดสมุนไพรต้านมะเร็งและมีคุณสมบัติในการทำลายเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี
ข้อควรรู้กับการกินผักเพื่อสุขภาพ
สำหรับอัตราส่วนของการกินผักทางด้านกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขก็ได้ให้คำแนะนำไว้ว่า ผู้ใหญ่ควรกินผักวันละ 18 ช้อนหรือประมาณ 6 ทัพพี โดยควรเลือกกินผักให้ได้หลากหลายชนิด รวมถึงสีของผักด้วยเพื่อให้ร่างกายได้รับคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วนเพียงพอ ซึ่งการกินผักหลากหลายสีและหลายชนิดนั้นยังช่วยลดการสะสมสารเคมีในร่างกายชนิดใดชนิดหนึ่งไม่ให้มีมากเกินไปได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อการกินผักอย่างปลอดสารพิษแท้จริง อย่าลืมล้างผักให้สะอาดก่อนกินทุกครั้งนะคะ
และนี่ก็คือ 12 ผักต้านมะเร็งที่มีด้วยกันหลากหลายชนิด แถมยังหลากสีสันอีกด้วย ใครที่อยากสุขภาพดีแข็งแรง ห่างไกจากโรคมะเร็ง พยายามหมั่นกินผักเหล่านี้เป็นประจำจะดีที่สุด