พระเครื่อง เครื่องราง

วิธีทำเส้นขนมจีน

หลายคนชอบกินขนมจีนน้ำยากันอย่างมาก เพราะขนมจีนก็จัดเป็นอาหารทานง่าย อิ่มเบาสบายท้องได้ดีไม่น้อย สามารถทานได้ทั้งกับน้ำยาหลากหลายชนิดหรือทานกับส้มตำก็อร่อยไปอีกแบบ วันนี้เมนูอาหาร.com จึงภูมิใจนำเสนอวิธีการทำอาหารกันอีกเช่นเคย แต่อาจจะแลดูยุ่งยากไปนิดหรือกลายเป็นงานช้างไม่น้อยสำหรับมือใหม่นั่น เพราะอาหารที่ว่านั้นก็คือ ขนมจีนนั่นเอง ใครจะลองทำขายก็ไม่ว่ากัน พร้อมแล้วก็มาลองทำกันดูเลยนะคะ

rice-vermicelli-recipes2

อุปกรณ์ในการทำ
1. ที่โรยเส้น ไว้สำหรับบีบแป้งให้เป็นเส้นลงในน้ำร้อน ลักษณะจะเป็นกระบอกที่มีรูด้านล่างหลายรู อีกส่วนหนึ่งก็คือกระบอกเล็กซึ่งมีหน้าที่คล้ายลูกสูบเพื่อทำหน้าที่ดันแป้ง อาจจะสั่งทำเองโดยสั่งทำแบบสแตนเลสหรือสังกะสีก็ได้แต่เลือกให้มีรูเล็กลงหน่อยเพื่อให้ได้เส้นขนมจีนเล็กๆ หรือแล้วแต่ความชอบ
2. กะละมัง ให้ใช้กะละมังก้นลึกอะลูมิเนียมขนาด 50 เซนติเมตร
3. กะละมังสำหรับไว้ล้างเส้น เตรียมไว้สัก 3-4 ใบ
4. ที่ตักเส้น ลักษณะคล้ายโครงไม้ตีแบตแต่มีตาข่ายซึ่งเป็นเชือกถักถี่ๆ ลักษณะจะห้อยย้อยคล้ายที่ช้อนปลานั่นเองค่ะ เอาไว้สำหรับช้อนเส้นที่ลวกสุกแล้วมาล้างน้ำ
5. ที่ใส่แป้งเวลาต้ม ลักษณะคล้ายชะลอมไม้ไผ่ไว้สำหรับใส่แป้งดิบเพื่อต้มให้สุก หรืออาจจะใช้วิธีนึ่งในซึ้งเอาก็ได้เช่นกัน
6. กระปีปต้มแป้ง
7. เครื่องตีแป้ง หากไม่มีจะใช้วิธีตำแป้ง(ด้วยครกไม้ใหญ่) โดยตำเอาเองก็ได้

rice-vermicelli-recipes3

วิธีทำเส้นขนมจีน
1. นำแป้งดิบ 4 กิโลกรัมมาต้มในกระปีปที่ตั้งน้ำจนเดือดอยู่ก่อนหน้าแล้ว โดยการนำแป้งมาปั้นให้เป็นลักษณะกลมๆ แล้วใส่ในชะลอมแล้วหย่อนลงไปลวกต้มหรือจะนำไปใส่ในซึ้งเพื่อนึ่งก็ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 5-6 นาที แต่หากแป้ง 8 กิโลก็ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ขณะเดียวกันก็ควรสังเกตดูแป้งไปพร้อมกัน โดยการหยิกแป้งดูค่ะ หากแป้งสุกลึกเข้าเนื้อสักครึ่งข้อนิ้วข้อแรกก็ถือว่าใช้ได้แล้วค่ะ

2. ให้นำแป้งที่ต้มหรือนึ่งจนสุกแล้วมาตีต่อด้วยเครื่องนวด หากใครไม่มีจะใช้วิธีการตำด้วยครกใหญ่ก็ได้ โดยตีจนเนื้อแป้งแตกตัว

3. นำแป้งมาเทใส่กะละมังแล้วนำน้ำร้อนมาเทใส่จากนั้นคลุกเคล้ากัน ระหว่างนี้อย่าใส่น้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้เกิดความเหลวบีบออกมาไม่เป็นเส้นได้ หรือหากข้นเกินไปก็จะทำให้บีบไม่ออกได้อีกเช่นกัน เพราะฉะนั้น ผู้ทำต้องดูลักษณะแป้งให้เป็นด้วย หรือในระหว่างขั้นตอนนี้อาจจะมีการลองเทสต์ไปบ้างเล็กน้อยก็ได้ หลังจากนั้นไม่เกิน 2 ครั้งก็จะดูแป้งเป็นแล้ว

4. เสร็จแล้วให้นำแป้งมาเทลงในผ้าขาวบาง แล้วรวบผ้าเพื่อช่วยบีบให้แป้งลอดออกมา โดยรูดออกให้หมด เพราะแป้งจะมีลักษณะเหนียวหนืดเราจึงต้องออกแรงบีบกันสักเล็กน้อย

5. นำแป้งมาใส่ลงบนที่โรยเส้น จากนั้นทำการโรยเส้นลงในกะละมังที่มีน้ำตั้งไว้บนเตารอแล้ว ให้โรยในขณะที่น้ำเดือด โดยมีเทคนิคการโรยคือ เวลาโรยนั้น ไม่ควรโรยแบบอยู่กับที่แต่ให้โรยแบบวนไปเรื่อยๆ ขณะที่บีบอยู่ก็จะไม่ให้เส้นลงซ้ำกัน อีกทั้งไม่ควรโรยสูงควรตั้งตำแหน่งที่โรยให้อยู่เหนือน้ำสัก 3-4 นิ้ว จากนั้นโรยจนแป้งหมดและไม่ต้องโรยช้าเอื่อยๆ แต่ให้รีบโรยโดยเร็วหรือให้ออกแรงกดเร็วๆ มากๆ แป้งก็จะพุ่งออกมาเป็นเส้นตามรูเป็นจำนวนมากและรวดเร็วขึ้นทันใจทีเดียวค่ะ

rice-vermicelli-recipes4

6. ให้ทิ้งไว้จนเห็นเส้นลอยขึ้นมาเป็นแพ จากนั้นใช้ที่ตักช้อนเส้นออกมาทีเดียวให้หมด

7. นำเส้นที่ช้อนมาแล้วไปล้างน้ำในกะละมังที่มีน้ำเย็นเตรียมรอไว้ ล้างโดยใช้กะละมัง 4 ใบ ใส่น้ำตั้งวางเรียงกันไว้เลยค่ะ ล้างโดยไม่ต้องเอาเส้นออกจากที่ตัก โดยจุ่มทั้งหมดลงไปทีเดียวแล้วใช้มือช่วยขยำและเขย่าเบาๆ

8. ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ กับทุกกะละมัง เมื่อถึงกะละมังใบที่ 4 ก็ให้เทเส้นออกมาทั้งหมดแช่น้ำไปเลยและหากพบว่าน้ำที่ล้างเริ่มร้อนก็ให้เปลี่ยนน้ำใหม่ทันที

9. ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการจัดเส้นมาใส่แพ็กเกจให้สวยงามเรียบร้อย ง่ายๆ โดยดึงเอาเส้นออกมาด้วยการใช้วิธีพันนิ้วมือค่ะ เมื่อได้ปริมาณที่ต้องการแล้วจึงเด็ดออกให้ขาด ถ้าเป็นก้อนเล็กให้คุณพันเพียงนิ้วชี้ซ้ายนิ้วเดียว แต่ถ้าเป็นก้อนใหญ่ก็พันสองนิ้วแล้วใช้มือบีบน้ำออกเบาๆ พร้อมกัน

10. จัดวางขนมจีนที่พันได้ตามต้องการแล้วจัดเรียงใส่ลงในกระจาด ที่สำคัญขณะนี้ควรทำด้วยความเร็ว ไม่ควรปล่อยเส้นให้แช่น้ำนานเกินไปค่ะ เพียงเท่านี้ก็จะได้เส้นขนมจีนพร้อมรับประทานกับเมนูอาหารต่างๆ หรือทำขายกันได้แล้ว

แม้ว่าจะเป็นวิธีการที่แลดูยุ่งยากน่าสับสนไปนิด แต่หากใครที่ต้องการทำอาชีพนี้หรือทำทานกันทั้งครอบครัวบ่อยๆ จะลองหันมาทำทานกันดูก็ไม่เสียหายเช่นกัน