ผิวพรรณของสาวๆ เรานอกจากริ้วรอยแห่งวัย ฝ้า กระและรอยสิวกวนใจแล้ว ผิวบริเวณแขนขาก็ยังกลายเป็นปัญหาของสาวๆ เราได้อีก หากปล่อยให้ถูกยุงกัดแล้วไม่รีบใส่ใจดูแลรักษากระทั่งเกิดเป็นรอยดำๆ บวมแดงขึ้นมา หากยิ่งเกาก็ยิ่งลุกลามก่อเกิดเป็นแผลเป็นขึ้นมาได้อีก ดังนั้น ถ้าวันนี้สาวๆ มีปัญหาผิวถูกยุงกัดอย่านิ่งนอนใจกันดีกว่า เรามาเร่งรีบทำการรักษาดูแลผิวบริเวณที่ถูกยุงกัดกันเถอะ
วิธีรักษาอาการเบื้องต้นสำหรับผิวที่ถูกยุงกัด
ให้คุณรีบล้างทำความสะอาดผิวบริเวณดังกล่าวด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนๆ ขณะเดียวกัน ไม่ควรเกาผิวที่ถูกยุงกัดแรงๆ จากนั้นให้ใช้ยาในกลุ่มที่ช่วยลดอาการคันมาทาผิว เช่น คาลาไมล์และเมนทอลเพื่อให้อาการคันบรรเทาลงไปหรือจะนำเอาสมุนไพรหรือสิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวมาทำรักษาอาการเบื้องต้นก่อนก็ได้ เช่น ดินสอพองผสมกับน้ำมะนาว น้ำผึ้ง ใบสาระแหน่และว่านหางจระเข้ โดยนำมาทาหรือพอกผิวให้ทั่วเน้นเฉพาะจุดที่โดนยุงกัดก็จะช่วยลดอาการอักเสบบวมรวมถึงลดอาการคันลงได้อย่างมากทีเดียว
แต่หากคุณมีอาการแพ้หรือเกิดรอยแผลจากการโดนยุงกัดที่ผิดปกติ สามารถรับประทานยาแก้แพ้ได้ค่ะ รวมถึงการใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ก็ช่วยบรรเทาอาการได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ อย่าปล่อยทิ้งเอาไว้นานแนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการรักษาโดยตรงจะดีกว่า หลังจากนั้นเรามาดูแลผิวที่เกิดจากรอยยุงกัดเพื่อให้สภาพผิวเนียนสดใสกันต่อไปดังนี้เลยค่ะ
ทาครีมบำรุงผิวลดจุดด่างดำ
ให้ทาครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินอี ซีและไวท์เทนนิ่ง โดยนำมาทางผิวบริเวณดังกล่าวบางๆ ทุกครั้งที่อาบน้ำเสร็จเป็นประจำทุกวัน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยลดเลือนจุดด่างดำจากรอยยุงกัดและช่วยกระตุ้นกระบวนการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวทำให้เผยผิวใหม่ที่เนียนเรียบสดใสกว่าเดิมได้
สวมเสื้อผ้าที่ช่วยปกปิดมิดชิด
ควรสวมเสื้อแขนยาว เสื้อคลุมและกางเกงขายาวเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัดได้อีก
ทาน้ำมันสกัดจากธรรมชาติ
ให้ใช้ครีม สเปรย์หรือน้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติมาทาแขนและขาเพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัด หรือจะนำมาฉีดในมุมอับต่างๆ ของบ้าน ในห้องนอนก่อนเข้านอนก็ได้เช่นเดียวกัน เพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยปกป้องไม่ให้ยุงเข้ามากัดผิวได้แล้ว
ไม่อยากให้ผิวมีรอยด่างดำเป็นจุดๆ จากการที่ถูกยุงกัดก็ต้องหันมาดูแลรักษาผิวกันตั้งแต่เนิ่นๆ ดีกว่านะคะสาวๆ ไม่เช่นนั้น แทนที่จะอวดผิวเนียนสดใสได้สมใจก็เป็นอันต้องพับโครงการอวดผิวสวยไปอีกนานแน่นอน