หลังผ่านพ้นช่วงเวลาอุ้มท้องเจ้าตัวน้อยตลอดเวลา 9 เดือน เมื่อคุณให้กำเนิดเจ้าตัวน้อยออกมาลืมตาดูโลก โดยเฉพาะในคุณแม่มือใหม่ด้วยแล้ว เชื่อว่าคุณจะต้องดีใจระคนปนความตื่นเต้นไม่น้อย เพราะการเลี้ยงลูกสำหรับแม่มือใหม่นั้นค่อนข้างยากทีเดียว
แต่ก็ใช่ว่าจะกลายเป็นเรื่องยากเสมอไปค่ะ หากคุณแม่ใส่ใจเรียนรู้อาการต่างๆ ของทารกที่ต้องการสื่อบอกกับเราได้อย่างเข้าใจ และปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพร่างกายของทารกให้แข็งแรง ซึ่งวันนี้ เราก็หยิบ วิธีดูแลทารกหลังคลอด อย่างอ่อนโยนมาฝาก โดยเฉพาะเรื่องการทำความสะอาด อาหารหลักสำคัญและปัจจัยเสริมต่างๆ ที่คุณแม่ควรรู้ ว่าแล้วก็ตามมาดูกันเลยนะคะ
1.การอาบน้ำให้ลูกอย่างถูกต้อง
สำหรับคุณแม่มือใหม่แล้ว ปฏิเสธไม่ได้เลยค่ะว่าการอาบน้ำให้ลูกน้อยนั้น นับว่ายากเอาการเช่นกัน แต่จะยากก็เฉพาะช่วงแรกๆ เท่านั้น หากทำบ่อยๆ จนชิน คุณก็จะลดอาการกังวลว่าจะทำให้ลูกน้อยได้รับอันตรายในระหว่างอาบน้ำได้อย่างแน่นอน โดยในตอนแรกๆ อาจจะมีผู้ใหญ่ช่วยดูแลอีกทีก็ได้ คุณแม่จะได้ลดอาการประหม่าในการอาบน้ำทารกได้มากขึ้น
เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
การอาบน้ำให้ลูกนั้น คุณแม่ควรอาบน้ำให้เขาวันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็นก็พอค่ะ โดยควรอาบตอนช่วงสายๆ และช่วงเย็นๆ ก่อนถึงตอนค่ำ เริ่มจากเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำให้ครบ ตั้งแต่อ่างอาบน้ำ สบู่เหลว แชมพูสระผม ฟองน้ำ ผ้าเช็ดตัวและอ่างอาบน้ำแบบที่มีแผ่นกันลื่น เมื่อเตรียมอุปกรณ์ไว้พร้อมแล้วก็เตรียมน้ำอุ่นๆ มาใส่ลงในอ่างอาบน้ำ จากนั้นให้ค่อยๆ วักน้ำขึ้นมาลูบไล้ผิวเจ้าตัวน้อยเบาๆ เพื่อให้เข้าได้ปรับตัวก่อน
สระผมก่อนอันดับแรก
ในการอาบน้ำของลูกน้อย แนะนำให้คุณแม่เริ่มจากการสระผมก่อนอันดับแรก โดยประคองท้ายทอยและศีรษะของลูกไว้ พร้อมกับใช้นิ้วโป้งและนิ้วก้อยพับใบหูของลูกไว้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้า ในระหว่างที่สระก็ควรนวดวนจนทั่วศีรษะอย่างเบามือ แล้วใช้ฟองน้ำช่วยล้างทำความสะอาด
เน้นทำความสะอาดทุกจุดของข้อพับร่างกาย
สำหรับการทำความสะอาดร่างกาย ควรเน้นใส่ใจทำความสะอาดตามจุดข้อพับต่างๆ โดยเฉพาะรักแร้ ขาหนีบ และทวารหนัก ทั้งนี้ก็เพื่อลดแหล่งสะสมของเชื้อโรคและลดการระคายเคือง แต่หากคุณแม่มือใหม่ไม่ค่อยมั่นใจในการอาบน้ำให้ลูกมากเท่าไรนัก อาจใช้วิธีอาบด้วยการให้ทารกนอนอยู่บนผ้ายาง แล้วใช้ฟองน้ำค่อยๆ เช็ดตัวลูกเอาก็ได้เช่นกันค่ะ
2.ใส่ใจทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน
เรื่องของความสะอาดในส่วนอื่นๆ โดยเฉพาะสะดือและอวัยวะเพศของลูกน้อยที่มักมีความอับชื้นเกิดขึ้นได้ง่าย คุณแม่จะควรใส่ใจดูแลมากเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้น หลังจากอาบน้ำเสร็จจึงควรเช็ดรอบบริเวณสะดือด้วยแอลกอฮอล์ 70% จนกว่าสายสะดือและโคนสะดือแห้งหลุดออกไป ไม่ควรใช้แป้งหรือยาผงโรยสะดือลูกเด็ดขาด เพราะอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อขึ้นได้ นอกจากนี้ ในส่วนของอวัยวะเพศและก้นก็นับเป็นอีกจุดที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง หลังจากลูกน้อยถ่ายเสร็จแล้ว คุณแม่ต้องรีบทำความสะอาดทันที โดยนำสำลีชุบน้ำมาเช็ดคราบปัสสาวะและอุจจาระออกไปจนหมด และควรเช็ดจากด้านหน้าไปยังด้านหลังอย่างเบามือ เสร็จแล้วก็ซับด้วยผ้าขนหนูจนผิวแห้งสนิท จึงใส่แพมเพิร์สหรือผ้าอ้อมให้ลูกต่อไป
3.เสื้อผ้าของลูกน้อย
สำหรับเสื้อผ้าของลูกน้อยนั้น คุณแม่ควรเลือกใส่ชุดผ้าฝ้าย เนื้อผ้านุ่มสามารถระบายอากาศได้อย่างเบาสบาย โดยอาจเป็นชุดที่มีตะเข็บน้อยๆ หรือเป็นเสื้อที่สวมแขน โดยมีเชือกผูกเป็นปมอยู่ทางด้านหน้าหรือด้านหลัง เพื่อให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสะดวกสบาย หากเป็นตอนฤดูหนาว ก็ควรเลือกชุดที่เนื้อผ้าหนา แขนยาว ขายาวจะได้ช่วยสร้างความอบอุ่นให้แก่ร่างกาย
4.สังเกตเสียงร้องและอาการของลูกอยู่เสมอ
เมื่อลูกน้อยมีความต้องการบางอย่าง เขามักจะส่งเสียงร้องแบบตะเบ็งเสียง ร้องครางอยู่ในลำคอ และแม้แต่การยิ้มก็ตาม ซึ่งการร้องไห้ของลูกนั้น ล้วนเป็นวิธีที่ลูกน้อยใช้สื่อสารกับคุณแม่อยู่เสมอๆ ว่าเขาต้องการอะไรในช่วงเวลานั้น เช่น ลูกน้อยกำลังหิวนม หรือไม่สบายตัวอันเนื่องจากการเจ็บป่วย ดังนั้น การส่งเสียงร้องทั้งหมดของลูก จำเป็นอย่างมากที่คุณแม่มือใหม่จะต้องหัดสังเกตอยู่เป็นประจำเพื่อจับอาการได้ว่าลูกต้องการสื่อถึงอะไรนั่นเอง ทั้งนี้จะได้รับมือการร้องไห้ของลูกได้อย่างถูกต้องต่อไป ซึ่งทำให้การเลี้ยงทารกแรกเกิดสำหรับคุณแม่มือใหม่เป็นไปง่ายขึ้น
5.ให้ความสำคัญกับนมแม่มากที่สุด
หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่า นมแม่เป็นแหล่งของสารอาหารหลักที่ดีเยี่ยมที่สุดสำหรับทารกแรกเกิดตลอด 1 ปีแรก เพราะในน้ำนมมีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายสูง ซึ่งถือเป็นโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ ส่งผลมายังพัฒนาการของลูกและการเจริญเติบโตอย่างมากที่สุด ยิ่งโดยเฉพาะในทารกอายุได้ประมาณ 6 สัปดาห์ ร่างกายของเขาจะเริ่มมีการเจริญเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลให้ลูกน้อยหิวบ่อยมากขึ้น เพราะฉะนั้น คุณแม่จึงควรให้นมลูกบ่อยขึ้นกว่าเดิมด้วยเช่นเดียวกัน
6.เติมสายใยรักระหว่างแม่ลูกให้อบอุ่น
สายสัมพันธ์แม่และลูก นับเป็นสิ่งที่อบอุ่นและทำให้ทารกสัมผัสได้ถึงความรัก ความปลอดภัยอย่างสุดซึ้งยิ่งแล้ว ดังนั้น คุณแม่จึงควรเพิ่มสายสัมพันธ์รักระหว่างคุณและลูกน้อยให้มากยิ่งขึ้น โดยการโอบกอดลูกอยู่บ่อยๆ อาจจะช่วงที่กำลังให้นมลูกหรืออุ้มลูก กล่อมลูก การพูดคุยกับลูกด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข การขยับแขนขาของลูกพร้อมกับนวดตัวเขาเบาๆ ก็ด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ จะยิ่งทำให้เขาสัมผัสได้ถึงสายใยรักที่คุณแม่มีต่อเขาได้อย่างแนบแน่นทีเดียว
ทั้งหมดนี้ ล้วนคือปัจจัยสำคัญสำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ควรมอบให้แก่ลูกน้อยอย่างอ่อนโยน จะเห็นได้ว่าไม่ใช่แค่การทำความสะอาดเท่านั้น แต่ยังหมายถึงเรื่องของการให้นม และการให้สายสัมพันธ์รักอันอบอุ่นปลอดภัยต่อลูกด้วย
รับรองค่ะว่าทั้งหมดนี้ จะช่วยให้คุณแม่มือใหม่สามารถเลี้ยงลูกได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ทำให้เขาเป็นเด็กเลี้ยงง่าย อารมณ์ดีและมีสุขภาพที่แข็งแรงเจริญเติบโตสมวัยแน่นอน