สาวๆ คนไหนที่มีปัญหาผิวหน้าเป็นฝ้าหรือเป็นรอยด่างดำ ราวกับว่ามีตำหนิประทับอยู่บนใบหน้า วันนี้แก้วใสมีวิธีรักษาฝ้าด้วยจากส่วนผสมที่หาได้ตามธรรมชาติรอบตัวเรามาแนะนำกัน เพราะนอกจากจะทำให้ฝ้าจางหายลงไปได้แล้ว ยังช่วยเคลียร์ทุกปัญหาผิว ไม่ว่าจะสิว ฝ้า กระและจุดด่าดำ รวมถึงริ้วรอยต่างๆ จนทำให้ผิวหน้าใสปิ๊งใครเห็นก็ต้องอึ้งเลยทีเดียว อยากรู้กันหรือยังจ๊ะว่าทำยังไง ถ้างั้น… อย่ารอช้ากันดีกว่า ตามแก้วใสมาดูวิธีรักษาฝ้าที่เรานำมาฝากกันในวันนี้เลยค่ะ
ว่านหางจระเข้
เนื่องจากในจระเข้มีสรรพคุณทางยาที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย และจุดด่างดำได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีกรดอ่อนๆ ที่ช่วยลดความมันบนใบหน้า เพียงแค่นำเนื้อวุ้นในว่านหางจระเข้มาทาบริเวณใบหน้าวันละ 2-3 ครั้ง โดยทำต่อเนื่องกันประมาณ 1-2 เดือน สังเกตเห็นได้ว่า รอยฝ้า และรอยดำต่างๆ จะดูจางอย่างเห็นได้ชัด
ใบบัวบก
จากการวิจัยพบว่าใบบัวบกมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการของโรคผิวหนังได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะปัญหาของกระ ฝ้าและสิว เพียงแค่นำใบบัวบกมาคั้นแช่ตู้เย็น ดื่มเป็นประจำทุกวัน หรือจะนำมาปั่นแล้วนำน้ำใบบัวบกมาเช็ดแทนโทนเนอร์ก่อนนอนทุกคืน ก็จะช่วยให้รอยฝ้าจางหายไป นอกจากนี้ ใบบัวบกนั้นยังนับเป็นผักสมุนไพรจากธรรมชาติที่มีคุณสมบัติช่วยในการต่อต้านริ้วรอยและชะลอไม่ให้ผิวเหี่ยวย่นได้ด้วย ใครไม่อยากแก่ก่อนวัย ใบบัวบกนี่แหละค่ะช่วยทำให้คุณเป็นสาวสวยอ่อนเยาว์สมใจได้
หัวไชเท้า
นำเอาหัวไชเท้ามาล้างให้สะอาด แล้วนำมาปอกเปลือกออกให้หมด จากนั้นจึงนำไปหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วปั่นให้พอละเอียด ตามด้วยบีบน้ำมะนาวผสมลงไปเล็กน้อย นำมาพอกให้ทั่วใบหน้าหรือบริเวณที่เป็นฝ้าประมาณ 15 นาที รับรองได้ว่าหากทำเป็นประจำ ฝ้าจะหายเกลี้ยงไปอย่างแน่นอน
มะขามเปียก
มะขามเปียกมีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าทำให้รอยฝ้าดูจางลงและลดรอยด่างดำได้ดีเลยทีเดียว เพียงแค่นำเนื้อมะขามเปียกมาพอกบริเวณผิวหน้าที่เป็นรอยฝ้า โดยทาบางๆ แล้วทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาทีแล้วล้างออกให้สะอาด ทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพียงเท่านี้รอยฝ้าที่คอยกวนใจก็จะจางหายไปได้แล้ว
เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย กับวิธีรักษาฝ้าที่แก้วใสนำมาฝากกันในวันนี้ ทำได้ง่ายมากเลยใช่ไหมละคะ เอาเป็นว่าสาวๆ ที่กำลังกังวลกับรอยตำหนิบนใบหน้า อย่าลืมนำวิธีการรักษาที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ไปทำกันดู เพราะนอกจากฝ้าจะหายไปจากใบหน้าแล้ว ยังคืนความใสปิ๊งให้กลับมาดูอ่อนเยาว์ได้อีกครั้งเลยล่ะ