พระเครื่อง เครื่องราง

ฟักทองสังขยา ขนมหวานไทยเลอค่า ประโยชน์นานาเพื่อสุขภาพ

ฟักทองสังขยา

ขนมหวานไทยมีด้วยกันหลายชนิด และขนมที่มาพร้อมวิธีทำแสนง่าย แถมยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกะทิรสหวานกลมกล่อม เป็นอีกหนึ่งขนมหวานไทยที่หลายคนชื่นชอบ เชื่อว่าหากพูดถึง “ฟักทองสังขยา” แล้วไม่มีใครไม่รู้จักเป็นแน่

และนอกจากรสชาติอันแสนหอมหวานที่เสิร์ฟมาพร้อมความอร่อยจนทุกคนติดใจแล้ว ฟักทองยังมีประโยชน์อีกมากที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ วันนี้เราเลยหยิบเอาทั้งวิธีทำฟักทองสังขยาและประโยชน์ของฟักทองมาฝากกัน ว่าแต่สาวๆ คนไหนที่อยากลองทำทานเองบ้าง มาดูวิธีทำฟักทองสังขยาไปพร้อมกันเลยค่ะ

วัตถุดิบและเครื่องปรุงฟักทองสังขยา

– ฟักทอง 1 ลูก (700-800 กรัม)
– กะทิ 100 มิลลิลิตร
– ใบเตย 3 ใบ
– ไข่เป็ด 4 ฟอง
– เกลือ 1/2 ช้อนชา
– น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม

ขั้นตอนการทำฟักทองสังขยา

1.เจาะฟักทองด้านบนด้วยมีดคมๆ บริเวณที่ติดกับขั้วให้เป็น 5 เหลี่ยมด้านเท่า

2.แกะเอาฝาออกจากนั้นใช้ช้อนมาคว้านไส้ฟักทองทิ้งไปแล้วพักไว้

3.นำไข่เป็ดมาตอกใส่ชามผสม ตีให้ไข่แตก จากนั้นใส่น้ำกะทิ น้ำตาลปี๊บ เกลือและใบเตย

4.สวมถุงมือแล้วขยำส่วนผสมทั้งหมดในชามผสมให้เข้ากัน เมื่อกลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้วจากนั้นจึงกรองด้วยกระชอนตาถี่บรรจุลงภายในลูกฟักทอง

5.ต้มน้ำให้เดือดด้วยซึ้งสำหรับนึ่ง จากนั้นนำฟักทองที่ใส่ส่วนผสมไว้เมื่อครู่มานึ่ง 30 นาที

6.หลังจากนึ่งเสร็จแล้ว นำฟักทองมาตัดให้เป็นชิ้นสามเหลี่ยม ใส่จานเสิร์ฟ เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ

ฟักทอง

ประโยชน์จากฟักทอง

ฟักทองเป็นผักพื้นบ้านสีเหลืองทองที่เปี่ยมด้วยประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพหลายอย่าง นำมาทำเอาหารหรือทำอาหารว่างหวานก็แสนอร่อย วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทราบกันค่ะว่าประโยชน์จากฟักทองมีอะไรบ้าง

บำรุงสายตา

โดยปกติ บรรดาผักสีเหลืองส้มนั้นก็จัดเป็นแหล่งของวิตามินเอสูงมากทีเดียว โดยฟักทองบดปริมาณ 1 ถ้วยจะให้วิตามินเอสูงมากถึง 200% ของปริมาณที่แนะนำให้ทานใน 1 วัน วิตามินเอมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสายตา ทำให้การมองเห็นดีขึ้นและช่วยลดความเสื่อมสภาพของเซลล์ลูกตาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ช่วยลดน้ำหนัก

เนื่องจากเนื้อฟักทองมีปริมาณไฟเบอร์สูงมากถึง 3 กรัมต่อ 1 ถ้วยเสิร์ฟ และยังให้แคลอรี่เพียงแค่ 49 แคลอรี่เท่านั้น แถมยังให้คาร์โบไฮเดรตและช่วยให้อิ่มท้องนานโดยลดอาการหิวจุบจิบได้ด้วย ดีต่อคนที่กำลังลดน้ำหนักแบบนี้ จะมองข้ามได้อย่างไรกันล่ะคะ

เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

นอกจากฟักทองจะมีวิตามินเอแล้ว มันยังมีวิตามินซีด้วยเช่นกัน ซึ่งวิตามินซีนี่แหละที่จะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันอาการป่วยเป็นหวัดได้

บำรุงผิวพรรณ

อยากมีผิวพรรณสวย สาวๆ หลายคนไม่ควรมองข้ามฟักทองเด็ดขาด เพราะฟักทองมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงที่จะสามารถชะลอการเสื่อมสภาพของผิวพรรณ ป้องกันผิวเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอย หมองคล้ำ สาเหตุของการมีผิวไม่สวยสดใส แต่หากคุณทานฟักทองสารแคโรทีนอยด์จากฟักทอง ก็จะเข้าไปทำหน้าที่ช่วยลดความเสื่อมสภาพของเซลล์ที่เกิดจากอนุมูลอิสระทำลายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าจะนำมาใช้มาส์กหน้าหรือรับประทานเป็นประจำ รับรองจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยอ่อนเยาว์ นุ่มชุ่มชื้นและมีน้ำมีนวลสุดๆ เลยทีเดียว

ลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง

ฟักทองมีสารเบต้าแคโรทีนที่เป็นประโยชน์ในการช่วยดูแลสุขภาพดวงตา และยังมีส่วนในการป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย เพราะผลการวิจัยได้บอกไว้ว่าสารต้านอนุมูลอิสระจะสามารถต่อต้านการเกิดมะเร็งได้ โดยในฟักทองก็เปี่ยมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากนี้ ยังอุดมด้วยกรดโปรไพโอนิคที่มีส่วนทำให้เซลล์มะเร็งอ่อนแอลง ไม่สามารถลุกลามร่างกายได้หนักขึ้น โดยเฉพาะในผู้ชายแล้วควรทานฟักทองอย่างมากเลยค่ะ เพราะผลจากการวิจัยยังค้นพบอีกว่าสารอาหารต่างๆ ที่ได้จากฟักทองจะสามารถป้องกันการเกิดมะเร็งต่อมลูกหมาก ป้องกันต่อมลูกหมากโตและช่วยป้องกันการเป็นหมันในผู้ชายได้นั่นเอง

และนี่ก็คือประโยชน์จากการทานฟักทองนั่นเองค่ะ ไม่ว่าเราจะนำฟักทองมาประกอบเมนูอาหารหรือทำอาหารว่างทานอย่างฟักทองสังขยา เชื่อว่าสารอาหารจากฟักทองจะทำให้ร่างกายคุณได้รับประโยชน์ไม่น้อย ดังนั้นแล้ว อย่ารอช้า…ลองหาวันว่างๆ มาเข้าครัวทำฟักทองสังขยารับประทานเพื่อสุขภาพกันเถอะนะคะ