เวลาที่เราเจ็บป่วยก็เนื่องจากร่างกายขาดสารอาหารจนทำให้ภูมิคุ้มกันโรคอ่อนแอ เราจึงป่วยกันได้ง่าย และเมื่อยามป่วยก็ต้องกินยาบำบัดส่งผลให้ตับทำงานหนักมากยิ่งขึ้น ดังนั้น จะดีกว่าไหมหากเราจะหันมาเริ่มต้นใส่ใจกินอาหารให้เป็นยา ด้วยการกินผักพื้นบ้านรอบตัวเราซึ่งหาได้ง่าย
วันนี้เราก็มีผักรอบตัวที่หากินง่าย 9 ชนิดมาแนะนำแล้วค่ะ เป็นผักที่มาพร้อมสารอาหารต่างๆ หลากหลายมีคุณสมบัติกินให้เป็นยา ต้านโรคได้ดีทั้งนั้น ใครอยากสุขภาพแข็งแรงมาดูกันค่ะว่าผักเหล่านี้มีอะไรบ้าง จะได้รีบนำไปตุนไว้ในตู้เย็นเพื่อเตรียมไว้ทำอาหารกินกันต่อไป
1.ขี้เหล็ก
หากพูดถึงขี้เหล็ก คนยุคสมัยใหม่นี้ไม่ชอบกินกันเท่าไรนัก เพราะไม่เป็นที่นิยมเท่ากับคนรุ่นก่อนๆ สำหรับขี้เหล็กนั้นเปี่ยมด้วยสรรพคุณทางยาหลากหลายเลยทีเดียว เนื่องจากใบขี้เหล็กมีทั้งวิตามินเอ ซี วิตามินบี 1 ใยอาหาร แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็กและไนอาซิน ในใบของมันยังมีสารบางชนิดที่สามารถออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ทำให้เรานอนหลับสบาย นอกจากนี้ เส้นใยอาหารที่มีสูงยังช่วยแก้ปัญหาท้องผูกและช่วยบำรุงร่างกายให้สดชื่น กระชุ่มกระชวยมากขึ้นได้ด้วย
2.แครอท
สุดยอดผักสีส้มที่ให้สารเบต้าแคโรทีนสูง สารนี้จะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานร่างกายให้แข็งแรง ทั้งยังมีคุณสมบัติเป็นดั่งยาฆ่าเชื้อและออกฤทธิ์ช่วยรักษาไข้หวัด ไอ เจ็บคอ ปอดอักเสบและช่วยลดอาการอักเสบบวมลงได้ หากนำมาทาผิวภายนอกยังสามารถช่วยลดอาการแสบร้อนอันเกิดจากการเผาไหม้ของแดด ช่วยลดเลือนฝ้า กระและจุดด่างดำได้ด้วย
แครอทยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งได้หลายชนิด เช่น มะเร็งปอด มะเร็งมดลูก มะเร็งเต้านมและมะเร็งกระเพาะอาหาร มีฤทธิ์ฟื้นร่างกายในผู้ป่วยระยะพักฟื้น ช่วยลดอาการอ่อนเพลีย รักษาโรคลำไส้อักเสบ สร้างเม็ดเลือดขาว แก้อาการข้ออักเสบ ล้างพิษตับ บำรุงรักษาสายตา แก้ปัญหาสายตาฝ้าฟาง ช่วยให้การมองเห็นในตอนกลางคืนชัดเจนขึ้น ช่วยย่อยอาหาร ขับปัสสาวะ ขับพยาธิไส้เดือน บำรุงผิวพรรณและช่วยชะลอความเสื่อมชราของร่างกายได้เป็นอย่างดีด้วยค่ะ ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยละคะว่าแครอทจะเปี่ยมด้วยคุณประโยชน์มากมายถึงเพียงนี้ ดังนั้น คงต้องหันมากินกันบ่อยๆ แล้วนะคะ

3.หัวปลี
ผักพื้นบ้านที่คนไทยเราคุ้นเคยรู้จักกันดี เพราะมันเป็นส่วนดอกของต้นกล้วยนั่นเอง สำหรับหัวปลีนั้นมีแร่ธาตุที่ช่วยบำรุงเลือด ช่วยแก้โลหิตจางและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล นอกจากนี้ ยังช่วยแก้โรคเกี่ยวกับลำไส้ได้ดีอีกด้วย หัวปลีเป็นผักที่มีรสชาติเฝื่อนเล็กน้อย ส่วนมากนิยมนำมาลวกจิ้มน้ำพริก ใครที่ยังไม่เคยลองกิน.. คุณอาจจะติดใจก็เป็นได้
4.ผักตำลึง
ผักอีกหนึ่งชนิดที่หลายคนนิยมนำมาทำอาหารหลากหลายเมนู สำหรับสรรพคุณทางยานั้นมีมากไม่น้อยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นผลอ่อนเล็กๆ ก็ยังสามารถกินเป็นยาบำรุงร่างกายและช่วยรักษาแผลในปากได้ ในคนที่มีปัญหาโรคผิวหนัง เช่น ผื่นแพ้ หมามุ่น ตำแย หนอนคัน หอยคัน มดคันไฟ บุ้ง ผื่นคันที่เกิดจากการสัมผัสน้ำเน่าเสีย ผื่นคันอันเกิดจากละอองข้าว ผื่นคันชนิดที่ไม่ทราบสาเหตุ ตลอดจนเริ่ม งูสวัด หิด สิว ฝีหนองและอีสุกอีใส เป็นต้น อาการเหล่านี้ก็ยังสามารถใช้ใบตำลึงมารักษาได้ นอกจากนี้ การกินตำลึงยังสามารถเป็นยาระบายท้อง ช่วยลดอาการอึดอัดท้องเพราะมันมีส่วนช่วยย่อยอาหาร สามารถย่อยได้ทั้งแป้งและช่วยแก้ร้อนในได้ด้วย
ในตำรับยาพื้นบ้านยังได้นำเอาตำลึงมาใช้เป็นยารักษาเบาหวาน โดยใช้ทั้งราก เถาและใบ เรียกว่าสามารถนำส่วนประกอบของมันมาใช้ได้เลยทั้งหมด สูตรตำรับการใช้ก็มีอยู่หลากหลาย โดยเฉพาะตำรายอายุรเวทนั้นก็พบว่ามีการใช้เป็นยารักษาโรคเบาหวานมายาวนานนับพันปีทีเดียว

5.ผักเชียงดา
หลายคนอาจจะไม่รู้จักผักเชียงดา ผักเชียงดานั้นเป็นพืชไม้เลื้อยที่ขึ้นอยู่ทางภาคเหนือ ลักษณะเป็นเถาสีเขียว ทุกส่วนของต้นจะมีน้ำยางสีขาวขุ่นคล้ายกับน้ำนม ใบเดี่ยว รูปกลมรี ท้องใบสีเขียวแก่กว่าด้านหลังใบ มักจะออกใบตรงข้อเป็นคู่ ในส่วนของยอดอ่อนและใบอ่อนสามารถนำมากินเป็นผักได้ โดยจะมีรสชาติขมอ่อนและยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ทั้งยังเป็นผักที่หมอยาพื้นบ้านไทยเรานิยมนำมาใช้เพื่อช่วยบำรุงกำลัง ให้สามารถทำงานหนักและใช้รักษาเบาหวานได้ด้วย
นอกจากนี้ สำหรับสาวๆ ที่อยากหุ่นสวย ผักเชียงดายังสามารถกินเพื่อลดน้ำหนักได้ด้วยนะคะ เพราะมันมีส่วนช่วยให้ร่างกายนำน้ำตาลไปเผาผลาญมากกว่าการนำไปเก็บสะสมไว้ในรูปแบบไขมัน จนกลายเป็นไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ และจากผลการศึกษาพบว่า มันเป็นผักที่สามารถกินเพื่อช่วยลดน้ำหนักได้อย่างแท้จริงนั่นเอง
6.กะหล่ำปลี
อีกหนึ่งผักพื้นบ้านที่หากินง่ายรอบตัว สำหรับกะหล่ำปลีนั้นเป็นสุดยอดผักที่มีคุณประโยชน์ทางยาหลากหลาย เพราะสามารถป้องกันและรักษาโรคมะเร็งได้หลายชนิด มีทั้งวิตามินซีสูงและสารอาหารกลูตามีนที่จะช่วยกระตุ้นให้กระเพาะอาหารสามารถสร้างเยื่อบุผนังกระเพาะได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้แผลภายในกระเพาะและลำไส้หายเร็วขึ้นได้ หากเรากินเป็นประจำมันจึงช่วยรักษาโรคกระเพาะและช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ได้โดยตรงนั่นเอง
นอกจากนี้ กะหล่ำปลียังสามารถเสริมสร้างระบบภูมิคุ้นกันโรคให้แข็งแรง ทำหน้าที่ในการช่วยล้างพิษในตับ กระตุ้นระบบน้ำดีให้สามารถทำงานได้ตามปกติ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยนำมาคั้นน้ำดื่มหรือกินแบบสดๆ ก็ได้ สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่มีอาการคัดตึงเต้านมและปวดมาก สามารถนำใบสดกะหล่ำปลีมาประคบเต้านมก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดตึงลงได้ค่ะ

7.ถั่วฝักยาว
ถั่วฝักยาวเป็นผักที่ให้โปรตีนสูง มีวิตามินซีที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กเข้าไปได้ดี ซึ่งจะช่วยบำรุงเลือดและทำให้ผิวพรรณสวยเปล่งปลั่ง เนื่องจากเป็นผักที่ให้กากใยอาหารสูงมาก และกากใยนี้เองค่ะที่จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับกรดในกระเพราะอาหาร สร้างสารประเภทเจลลาตินเพื่อให้เกิดการเคลือบกระเพาะ กินแล้วยังทำให้รู้สึกอิ่มท้องง่ายและอิ่มนานขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังมีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลเนื่องจากมันจะเข้าไปจับกรดน้ำดี หากร่างกายของเราไม่มีน้ำดีใช้เพียงพอมันก็จะต้องถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และการใช้น้ำดีได้นั้นจะต้องใช้คอเลสเตอรอลเป็นตัวช่วย ด้วยเพราะเหตุนี้เอง มันจึงช่วยลดคอเลสเตอรอลลงได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้แล้ว การนำถั่วฝักยาวไปต้มดื่มแต่น้ำยังถือเป็นยาบำรุงรักษาไตได้อีกด้วย
8.มะระขี้นก
แม้ว่าจะมีรสขมและหลายคนไม่ค่อยชอบทานนัก แต่มะระขี้นกกลับเป็นผักที่สามารถทานต้านเบาหวานได้เป็นอย่างดี เพราะมันมีสรรพคุณช่วยลดน้ำตาลในเลือด และยังชะลอการเกิดต้อกระจกซึ่งเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคเบาหวาน สำหรับวิธีกินนั้น สามารถนำมาคั้นน้ำ เอามาชงดื่มแทนชาหรือกินในรูปแบบแคปซูลและผงแห้งก็ได้ สำหรับใครที่ชอบกินผักสดหรือผักลวกจิ้มน้ำพริกอยู่แล้ว ก็สามารถรับประทานเป็นประจำให้เป็นอาหารต้านเบาหวานกันได้เลยค่ะ

9.ผักกาดขาว
เป็นผักที่เปี่ยมด้วยเส้นใยอาหารและมีโฟเลทสูง โฟเลทนั้นเป็นสารสำคัญที่มีบทบาทช่วยควบคุมชีวิตทารกในครรภ์ให้เจริญเติบโตอย่างปกติ เพราะมันจะควบคุมการสร้างระบบประสาทและ DNA ดังนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์จึงไม่ควรพลาดการกินผักกาดขาวในระหว่างตั้งครรภ์อย่างยิ่ง
ขณะที่เส้นใยของผักกาดขาวนั้นจะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้เกิดการเคลื่อนไหวตัว จึงส่งผลดีต่อระบบย่อยอาหาร ช่วยป้องกันไม่ให้อุจจาระแข็งตัว เพราะเส้นใยของผักจะไม่จับตัวรวมกันแน่นและยังถนอมเก็บน้ำเอาไว้พร้อมกัน จึงทำให้เรากินไปแล้วสามารถขับถ่ายได้ดียิ่งขึ้น
และเนื่องจากผักกาดเป็นผักที่ให้รสหวานตามธรรมชาติ ทว่าไม่มีฤทธิ์ร้อนหรือเย็น กินแล้วก็ยังช่วยลดอาการอึดอัดบริเวณหน้าอก ช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับ ลดอัตราการเต้นของหัวใจให้กลับมาปกติดีขึ้น ทำให้จิตใจสบาย ผ่อนคลาย ไม่เครียดและช่วยเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของไตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สุดยอดผักทั้ง 9 ชนิดนี้ เป็นผักที่เราหากินได้ง่ายรอบตัวอยู่แล้ว และสำหรับคุณสมบัติของมันล้วนแล้วแต่ทำให้เราพลอยทึ่งไปตามๆ กัน ฉะนั้น ใครที่อยากมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรคร้ายต่างๆ อย่าลืมหันมากินผักต้านโรคกันทุกวันนะคะ