ผักผลไม้รอบตัวเราหลายชนิดล้วนมีคุณสมบัติที่ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยกันทั้งสิ้น เพราะมันเป็นอาหารทางยาอย่างหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม
อย่างผักผลไม้รสเปรี้ยวที่เราหยิบมาแนะนำให้คุณได้ทราบกันวันนี้ ก็มาพร้อมสรรพคุณทางยาไม่น้อยเลยทีเดียว อยากรู้กันหรือยังคะว่ามีดีอย่างไร ถ้าเช่นนั้น.. รีบตามอาหารว่าง.com มาทำความรู้จักกันเลยค่ะ
1.กระเจี๊ยบแดง
เป็นผักที่มีเมือกมันลื่น เมื่อลวกหรือต้มแล้วจะมีเมือกลื่นๆ ปริมาณมาก เมือกดังกล่าวจะช่วยขับเมือกมันภายในลำไส้ นอกจากนี้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นผักที่นิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มน้ำกระเจี๊ยบเพื่อดื่มดับกระหายคลายร้อน
2.มะนาว
นับเป็นผลไม้สมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวจี๊ด แต่เปี่ยมไปด้วยคุณสมบัติหลายประการทีเดียว ในส่วนของเปลือกผลที่ให้รสขมนั้นจะช่วยในการขับลม น้ำมะนาวที่แสนเปรี้ยวจัดสามารถนำมาใช้เป็นยาขับเสมหะ คนชนบทในสมัยก่อน.. เมื่อเด็กๆ เล่นหกล้มหัวโน ผู้ใหญ่จะนำน้ำมะนาวมาผสมกับดินสอพองให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกบริเวณที่หัวโนก็จะทำให้เย็นและอาการโนยุบลงเร็ว
นอกจากนี้ ผิวของเปลือกมะนาวยังมีน้ำมันหอมระเหย (Volatile oil) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ วิตามินซีจากน้ำมะนาวยังมีสรรพคุณช่วยรักษาโรคลักปิดลักเปิด ในขณะที่กรดจากน้ำมะนาวจะมีฤทธิ์ช่วยในการขับเสมหะ บรรเทาอาการแก้ไอและกระตุ้นให้เกิดการขับน้ำลายออกมา ทำให้ผู้ป่วยมีอาการชุ่มคอมันจึงช่วยลดอาการไอลงได้นั่นเอง
3.ชะมวง
มีสรรพคุณช่วยระบายท้อง ช่วยย่อยอาหาร คุมธาตุ แก้ธาตุพิการและแก้บิดได้
4.มะขาม
ช่วยดับกระหายคล้ายร้อน ขับเสมหะ ขับลมในลำไส้ แก้ไอ ใช้เป็นยาระบายท้องได้และยังช่วยกระตุ้นการขับถ่ายให้ทำงานดีขึ้นได้อีกด้วย
5.สับปะรด
ผลไม้ที่อุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูงซึ่งจะช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ช่วยย่อยอาหารได้ผล จึงช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้องได้ นอกจากนี้ ยังช่วยลดอาการอักเสบบวม ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่สึกหรอให้กลับมามีสภาพดีและแข็งแรงขึ้น พร้อมกันนี้ ยังมีประสิทธิภาพในการขับเสมหะได้ด้วย
6.มะเฟือง
เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ทั้งยังเปี่ยมด้วยสารแอนตี้ออกซิแดนท์ซึ่งจะทำหน้าที่ในการป้องกันและต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยในการยับยั้งการผลิตเม็ดสีน้ำตาลหรือยับยั้งการเกิดฝ้าได้ผล ทำให้ฝ้าหนาๆ หรือฝ้าที่มีการสะสมมานานค่อยๆ จางลง แถมยังช่วยซ่อมแซมผิวให้กลับมามีสุขภาพดีอีกครั้งได้ด้วย
7.ฝรั่ง
เป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่อุดมด้วยวิตามินซีสูงไม่น้อยเช่นกันค่ะ สำหรับฝรั่งนั้นมีคุณสมบัติช่วยลดระดับไขมันในเลือดได้ เหมาะกับผู้ป่วยโรคเส้นเลือดอุดตันอย่างมาก นอกจากนี้ ยังช่วยลดปริมาณสารพิษจากร่างกาย ป้องกันไม่ให้ไขมันจับที่ผนังของหลอดเลือด อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคโลหิตจางไม่ควรรับประทาน
8.ส้ม
ส้มเป็นผลไม้ที่เปี่ยมด้วยวิตามินซี อุดมด้วยเส้นใยอาหารสูงทั้งยังให้พลังงานต่ำ นับเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีวิตามินเอช่วยในการบำรุงสายตา ช่วยระบายท้อง ป้องกันปัญหาท้องผูกและสามารถกินเพื่อควบคุมน้ำหนักได้ผล
9.มะขามแขก
ถือเป็นยาถ่ายที่มีประวัติการใช้งานมายาวนานเกือบ 100 ปีเลยทีเดียว เนื่องจากมันมีสารแอนทราควิโนนซึ่งจะออกฤทธิ์กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่จึงทำให้เกิดอาการถ่ายท้องได้ดี แต่การศึกษาค้นคว้ากลับพบว่าการใช้มะขามแขกเป็นระยะเวลายาวนานจะทำให้ร่างกายขาดสารโพแทสเซียมได้ ดังนั้น หากมีความจำเป็นต้องใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานก็ควรรับประทานอาหารที่ให้โพแทสเซียมร่วมด้วย
10.แอปเปิ้ล
มีฤทธิ์ช่วยกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ เปลือกของมันเป็นกากใยอาหารชั้นเยี่ยมที่จะทำหน้าที่กวาดล้างของเสียออกจากร่างกาย ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น ช่วยปรับสมดุลของการย่อยอาหาร แก้โรคท้องร่วง บำรุงกระเพาะ ลดกรดในกระเพาะและช่วยละลายเสมหะได้ด้วยค่ะ
11.กะทกรก
มีสรรพคุณช่วยขับเสมหะ แก้ไอ แก้ปวด รักษาบาดแผล รักษาโรคผิวหนัง แก้โรคเหน็บชา หิดและช่วยขับปัสสาวะ
12.ส้มกุ้ง
มีสรรพคุณช่วยแก้ลม แก้อาการช้ำใน ลดไข้ ช่วยขับเสมหะ ขับโลหิต นอกจากนี้ ยังนำมาใช้ปรุงเป็นยาถ่ายเส้นและใช้กัดเถาดานในท้องได้
13.มะเขือเทศ
ผักสีแดงที่เปี่ยมด้วยสารไลโคปีนปริมาณสูงลิบ มีคุณสมบัติป้องกันและต่อต้านมะเร็งได้หลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ ยังช่วยในเรื่องย่อยอาหาร บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งกระจ่างใส ช่วยฟอกเลือดและปลุกร่างกายให้สดชื่นขึ้นได้
14.มะม่วง
ผลไม้ที่มาพร้อมสรรพคุณทางยาหลายอย่างด้วยกันค่ะ ได้แก่ ช่วยดับกระหายน้ำ แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ แก้ท้องอืด ขับพยาธิ แก้ไข้ตัวร้อน แก้ลำไส้อักเสบเรื้อรัง แก้บิดถ่ายเป็นเลือด บำรุงอวัยวะในระบบย่อยอาหาร แก้อาการปวดเมื่อยขณะมีประจำเดือน สำหรับผู้ตั้งครรภ์หากมีอาการท้องเสีย แนะนำให้ใช้เมล็ดมาคั่วแล้วบดให้เป็นผงจากนั้นนำมาผสมกับนมเปรี้ยวแล้วดื่มก็จะช่วยรักษาอาการท้องเสียให้ดีขึ้นได้
ว้าว.. มากมายด้วยคุณประโยชน์เลยทีเดียวว่ามั้ยคะ สำหรับผักผลไม้สมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยา ผักผลไม้เหล่านี้เป็นสิ่งที่เราหาได้ง่ายๆ รอบตัวอยู่แล้ว แม้บางชนิดหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักคุ้นเคย แต่บางชนิดเราก็สามารถหามารับประทานกันได้เป็นประจำตลอดฤดูกาล
ใครสะดวกใช้ผักผลไม้หรือสมุนไพรไทยชนิดไหน รักษาอาการใดบ้างก็อย่าลืมหยิบมาใช้บำรุงร่างกายและรักษาอาการเจ็บป่วยเล็กๆ น้อยๆ กันบ้างนะคะ