จากบทที่แล้วหลังจากที่แก้วใสได้นำเสนออาการของไมเกรน ปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดไมเกรน บทนี้แก้วใสจะนำเสนอการป้องกันรวมถึงการรับประทานอาหารที่ช่วยป้องกันและบรรเทาอาการของไมเกรนได้ มีอะไรบ้างนั้นตามมาอ่านกันต่อเลยค่ะ
ปวดไมเกรน… ป้องกันได้นะ
ถ้าสาวๆ มีอาการปวดบ้างนานๆ ที อย่างน้อยปีละ 2-3 ครั้ง ก็ไม่จำเป็นถึงขั้นต้องทานยาก็ได้ค่ะ แต่หากปวดถี่ๆ ทุกวันหรือทุกสัปดาห์แบบนี้ ควรหลีกเลี่ยงปัจจัยในการเกิดดังที่กล่าวไปแล้วก่อนหน้า และควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการรักษา โดยแพทย์จะให้ยาในการป้องกันอาการปวดค่ะ เช่น ยาที่ช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดภายในสมองของเราเกิดการขยายตัว ยาช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า เป็นต้น โดยยาเหล่านี้ล้วนเป็นยาที่ค่อนข้างแรงและมีอันตราย ดังนั้น ก่อนแพทย์จะจัดยาให้ผู้ป่วยจะต้องทานโดยอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ไปด้วยพร้อมกัน
และแม้ว่าไมเกรนจะเป็นโรคที่ไม่ได้ส่งผลอันตรายใดแก่ชีวิต แต่หากเป็นแล้วก็ย่อมนำมาซึ่งอาการทุกข์ทรมานและบั่นทอนสภาพจิตใจร่างกายของเราไม่น้อย ทางที่ดีเรามารับมือป้องกันไม่ให้โรคนี้เกิดกันดีกว่าโดยแก้วใสจะแนะนำค่ะว่าพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของเราๆ หลายคน แบบไหนกันบ้างนะที่มีความเสี่ยงในการกระตุ้นให้เกิดไมเกรน
- ปล่อยตัวให้อ้วนเกินไป
- สูบบุหรี่เป็นประจำหรืออยู่ในสถานที่ที่มีควันบุหรี่ เรื่องของบุหรี่เนี่ย แก้วใสไม่ใช่สาวประเภทสิงห์อมควันอยู่แล้ว แต่เมื่อไรที่ได้กลิ่นบุหรี่ลอยมาปะทะจมูก ไม่นานจากนั้นจะเริ่มมีอาการปวดไมเกรนได้ทันที จึงต้องพยายามหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีคนสูบบุหรี่ค่ะ
- นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ การนอนไม่พอสำหรับแก้วใสตื่นมามักจะปวดหัวตุ้บหนักๆ ตึ้บๆ ไปเลย บางทีก็จะจี๊ดๆ ไปตามอาการไมเกรนนั่นแหละ หลายคนก็ล้วนต้องเคยเป็น เพราะฉะนั้น เรามานอนพักให้เต็มอิ่มโดยนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง และต้องหลับให้สนิทด้วยนะคะเพราะหากนอนไม่สนิทตลอดคืน ต่อให้คุณนอนไปถึง 10-12 ชั่วโมง ร่างกายของเราก็ไม่ได้ถือว่าพักผ่อนเต็มอิ่ม ย่อมส่งผลให้เกิดอาการไมเกรนได้แน่นอนค่ะ
- ไม่มีเวลาออกกำลังกาย เราต้องออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งๆ ละ 30 นาที หรือเท่าไรก็ได้ขอให้มีเหงื่อซึมออกมา เมื่อร่างกายได้ขับเหงื่อแม้เพียง 20 นาทีก็ตาม จะทำให้ออกซิเจนถูกลำเลียงไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายและทำให้สมองของเราปลอดโปร่งสดชื่น ทีนี้ก็สามารถป้องกันไมเกรนได้แล้ว
- ไม่เคยเข้ารับการตรวจความดัน ตรวจระดับคลอเรสเตอรอล ทั้งนี้ ยังมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดความดันพร้อมกันกับมีระดับคลอเรสเตอรอลสูงได้อีกด้วย
- ทานอาหารไม่ตรงต่อเวลา
- ดื่มเครื่องดื่มกระตุ้นบ่อยๆ เช่น การดื่มชา กาแฟและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- ดื่มน้ำน้อย คนที่ดื่มน้ำอย่างเพียงพอต่อวันสามารถป้องกันอาการปวดศีรษะได้อย่างแท้จริง เพราะมีผลการศึกษาวิจัยจากกลุ่มอาสาสมัครระหว่างผู้ป่วยไมเกรนที่ดื่มน้ำมากเพียงพอกับผู้ที่ดื่มน้ำน้อยมาแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้พบว่าสามารถป้องกันอาการไมเกรนและบรรเทาอาการที่เคยเป็นรุนแรงลงมาได้ด้วยค่ะ
อาหารทานแล้วบรรเทาอาการไมเกรนได้
แม้ว่าจะมีปัจจัยกระตุ้นหลายส่วนที่ทำให้เราปวดหัวไมเกรนกันอยู่บ่อยๆ และการจะป้องกันได้นั้น นอกจากการนอนพักผ่อนเพียงพอและการออกกำลังกายแล้ว เรื่องของอาหารการกินเราก็ยังควรใส่ใจเลือกรับประทานเพื่อป้องกันอาการไมเกรนได้เช่นเดียวกันนะคะ แก้วใสจะแนะนำให้ทราบดังนี้ค่ะ
- แคลเซียม หาทานได้จากนม งาดำและปลาเล็กปลาน้อยค่ะ
- วิตามิน B และกรดโฟลิกซึ่งพบมากจากผักใบเขียว
- แมกนีเซียม หาทานได้จากถั่วต่างๆ ผักใบเขียวทุกชนิด อาการจำพวกธัญพืชและอะโวคาโด
- ธาตุเหล็ก หาทานได้จากผักใบเขียว ตับ เนื่องจากอาการปวดหัวก็เกิดขึ้นได้จากสาเหตุที่ร่างกายของเราขาดธาตุเหล็ก
- น้ำมันปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 ทานแล้วจะช่วยลดความรุนแรงของอาการปวดหัวไมเกรนลงได้ สามารถหาทานได้จากปลาต่างๆ แม้แต่ปลาทูที่เราหาซื้อได้ง่ายๆ จากตลาดก็มีกรดไขมันดังกล่าวแล้ว แต่หากใครไม่ค่อยสะดวกได้ทานปลาจะซื้อน้ำมันปลาในรูปแบบอาหารเสริมมาทานก็ได้เช่นเดียวกัน ทานพร้อมกันกับมื้ออาหารหลักที่คุณทาน
แก้วใสทำงานใช้สมองมากและเมื่อไรที่นอนพักผ่อนไม่พอ เวลาทานข้าวเสร็จก็มักจะทานน้ำมันปลาตามทุกครั้งค่ะ ทานแล้วสมองไบรท์ไปตลอดวันเชียว คิดงานก็แล่นชิลมากอีกทั้งอาการปวดหัวต่างๆ ที่เคยเป็น โดยเฉพาะอาการของไมเกรนจะบรรเทาจนกระทั่งหายไปจนน่าตกใจเลยค่ะ เพราะฉะนั้น ใครที่มักปวดบ่อยๆ อย่าลืมหาซื้อมาติดบ้านไว้ทานกันเป็นประจำนะคะ
- ดื่มน้ำสมุนไพร เช่น น้ำเก๊กฮวย เนื่องจากมีผลการวิจัยระบุไว้ว่าการดื่มน้ำที่มีสารสกัดจากใบเก๊กฮวยแห้งในปริมาณ 125 มิลลิกรัม/วัน จะช่วยป้องกันการเกิดไมเกรนได้ แต่สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ละอองเกสรควรหลีกเลี่ยงค่ะ
- Co Enzyme Q10 จากงานวิจัยของ Cleveland Headache Center ระบุว่าถ้าเราทาน Co Enzyme Q10 เสริมร่างกายวันละ 150 มิลลิกรัม ก็จะสามารถช่วยลดความถี่ในการเกิดไมเกรนได้เช่นกันค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ในวันนี้ใครที่กำลังมีอาการปวดไมเกรนหรือคนที่ปวดหัวไมเกรนกันบ่อยๆ จากนี้หันมาดูแลสุขภาพตัวเองกันให้มากขึ้น นอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายอยู่เสมอและรับประทานอาหารที่ดีที่สามารถป้องกันไมเกรนได้ รับรองค่ะว่าอาการปวดไมเกรนจะบรรเทาลงและดีขึ้นภายในเวลาไม่นานแน่นอนค่ะ