กระเจี๊ยบเขียว พืชสมุนไพรที่หลายคนรู้จักกันดี ซึ่งก็เป็นพืชตระกูลเดียวกับกระเจี๊ยบแดงนั่นเอง โดยสรรพคุณของมันนั้นก็ไม่แพ้กระเจี๊ยบแดงเลยล่ะ ซึ่งวันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักประโยชน์และสรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียวกันอย่างถึงพริกถึงขิงกันเลยทีเดียว ว่าแล้วจะรอช้าอยู่ทำไมล่ะ ไปดูกันเลย
ลักษณะของกระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชสมุนไพรตระกูลเดียวกับกระเจี๊ยบแดง ซึ่งตามบ้านก็จะมีชื่อเรียกที่ต่างกันออกไป เช่น มะเขือมอญ มะเขือมื่นหรือถั่วเละ เป็นต้น โดยกระเจี๊ยบเขียวนั้นจะมี 2 ลักษณะด้วยกัน ซึ่งก็คือ ฝักกลมเรียวและฝักแฉกเรียวนั่นเอง แต่ไม่ว่าจะมีลักษณะแบบไหนก็มีประโยชน์และสรรพคุณไม่แพ้กันเลยล่ะ นอกจากนี้การปลูกกระเจี๊ยเขียวนั้นสามารถปลูกได้ตลอดทุกฤดูกาล แต่ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานมักจะปลูกไม่ค่อยขึ้น เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวไม่ชอบดินแข็งและอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 18 องศานั่นเองค่ะ
การนำประโยชน์จากกระเจี๊ยบเขียวในแต่ละส่วนมาใช้
กระเจี๊ยบเขียวสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ตั้งแต่รากจนถึงเมล็ดกันเลยทีเดียว ว่าแต่ส่วนต่างๆ ของกระเจี๊ยบเขียวจะมีประโยชนอะไรบ้างนั้น มาดูกันค่ะ
1. ดอกอ่อน : ดอกอ่อนของกระเจี๊ยบเขียว นิยมนำมาประกอบอาหารซึ่งก็มีรสชาติที่อร่อยและยังมีสรรพคุณดีต่อสุขภาพร่างกายของเราอีกด้วย
2. ราก : รากกระเจี๊ยบเขียวก็นำมาทานได้เหมือนกัน มีรสชาติอร่อยแต่เหนียวไปหน่อย คนส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยนิยมทานรากกันสักเท่าไหร่ แต่ก็เป็นยาเหมือนกันนะคะ
3. เมล็ดแก่ : ในเมล็ดแก่นั้นจะมีแป้งอยู่เป้นจำนวนมาก เมื่อนำมาบดจะได้แป้งที่สามารถนำไปทำขนมปังได้และยังนิยมนำมาทำเป้นเต้าหู้ที่เราทานกันอยู่ทุกวันนี้อีกด้วย
4. ฝัก : ฝักกระเจี๊ยบเมื่อนำมาตากจนแห้ง แล้วนำไปบดจนละเอียด จะสามารถนำมาชงเป็นชาดื่มแทนกาแฟได้ และยังมีประโยชน์มากกว่าอีกด้วย
5. ใบ : โดยส่วนใหญ่แล้วใบของกระเจี๊ยบจะนิยมนำมาเป็นอาหารวัวเสียมากกว่า จึงมักจะเห็นได้ว่าผู้ที่ปลูกกระเจี๊ยบก็มักจะเลี้ยงวัวด้วยนั่นเอง
6. เปลือก : เปลือกของต้นกระเจี๊ยบก็มีประโยชน์เหมือนกันนะคะ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะนิยมนำมาสานตะกร้า ทอกระสอบหรือนำมาใช้เป็นเชือก นอกจากนี้ยังมีการนำเปลือกกระเจี๊ยบไปทอเป็นผ้าอีกด้วย
สรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียวนอกจากจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลายแล้ว ยังมีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพของเราอีกมากมายอีกด้วย ซึ่งสรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียวมีดังนี้
1. ลดระดับน้ำตาลในเลือด
ฝักของกระเจี๊ยบเขียวมีสรรพคุณในการลดระดับน้ำตาลในเลือด และยังสามารถควบคุมระดับน้ำตาลให้คงที่ได้อีกด้วย จึงนิยมนำมาใช้บรรเทาโรคเบาหวานได้ดี นอกจากนี้หากทานฝักกระเจี๊ยบเขียวเป็นประจำ จะช่วยลดภาวะเสี่ยงโรคเบาหวานและไม่ทำให้อ้วนด้วยค่ะ
2. บำรุงสมอง
ผลของกระเจี๊ยบเขียวสามารถนำมาทานเพื่อบำรุงสมองได้เป็นอย่างดี ซึ่งะช่วยให้ความจำดีขึ้นและป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้ นอกจากนี้ในเด็กวัยเรียน หากทานผลกระเจี๊ยบบ่อยๆ ก็จะทำให้สมองดี ฉลาดและความคิดคล่องขึ้นอีกด้วย
3. รักษาระดับความดันโลหิต
ในคนที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือความดันโลหิตต่ำ เหมาะที่จะทานผลกระเจี๊ยบเขียวมากที่สุดเลยล่ะ เพราะผลของกระเจี๊ยบเขียวมีสรรพคุณในการรักษาระดับความดันโลหิตให้เป็นปกติได้เป็นอย่างดี และยังช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ หน้ามืดบ่อยๆ ได้อีกด้วย
4. ช่วยขับเหงื่อ
ใบของกระเจี๊ยบเขียวมีสรรพคุณในการขับเหงื่อได้ดี ซึ่งจะทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิที่เหมาะสม อีกทั้งการขับเหงื่อยังช่วยขับสารพิษในร่างกายออกไปทางเหงื่ออีกด้วย จึงทำให้สุขภาพของเราดีขึ้นนั่นเอง
5. ใช้ในการล้างแผล
รากสามารถนำมาคั้นเอาแต่น้ำเพื่อใช้ล้างแผลสดหรือแผลพุพองที่เกิดจากน้ำร้อนลวกหรือโดนของร้อนๆ ได้ดี โดยให้นำรากกระเจี๊ยบมาล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นให้นำมาปั่นหรือตำจนละเอียด คั้นเอาแต่น้ำมาล้างแผลค่ะ
6. บำรุงกระดูกให้แข็งแรง
คนเราเมื่ออายุมากขึ้น กระดูกก็จะค่อยๆ เปราะบางและหักได้ง่าย แต่ผลของกระเจี๊ยบสามารถบำรุงกระดูกให้แข็งแรงได้เป็นอย่างดี คนส่วนใหญ่จึงนิยมนำผลกระเจี๊ยบมาทานเพื่อบำรุงกระดูกนั่นเองค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับประโยชน์และสรรพคุณจากกระเจี๊ยบเขียว ผักกรุบกรอบที่มาพร้อมรสหวานนุ่มละมุนเวลารับประทาน แถมยังมากด้วยสรรพคุณทางยามากมาย ใครไม่อยากสุขภาพแย่ ต้องทานกันบ่อยๆ แล้วนะคะ