หลายคนอยากมีสุขภาพดีแต่หารู้ไม่ว่าการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีทำได้ง่ายมาก โดยเริ่มตั้งแต่การกินอาหาร โดยเฉพาะผักผลไม้ ซึ่งอะโวคาโดก็จัดว่าเป็นผลไม้ที่มีความนิยมสูงมากในแถบยุโรปและอเมริกา
สำหรับคนไทยเราอาจจะไม่ค่อยมีใครคุ้นเคยและรู้จักกันดีนัก แถมบางคนอาจจะเข้าใจผิดๆ ไปว่ามันเป็นผลไม้ที่ไม่มีรสชาติ แถมยังมีไขมันสูงกินแล้วอาจทำให้อ้วนได้ แต่หากคุณมาทำความรู้จักอะโวคาโดไปพร้อมกับอาหารว่าง.com บางทีคุณอาจจะอยากหันมากินอะโวคาโดเป็นประจำมากขึ้นก็เป็นได้ค่ะ
อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีเนื้อประกอบไปด้วยไขมันชนิดไม่อิ่มตัวซึ่งมีประมาณ 4-20% แล้วแต่สายพันธุ์ของมัน ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ ร้อยละ 70 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิด monounsaturater fatty acid โดยกรดไขมันดังกล่าวเป็นไขมันชนิดดีต่อร่างกาย หากเรากินในปริมาณที่เพียงพอคุณรู้ไหมว่ามันจะช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดีอีกด้วย รับรองค่ะว่ากินแล้วไม่มีทางทำให้อ้วนแต่อย่างใดแน่นอน
อะโวคาโดกับคุณสมบัติช่วยป้องกันโรค
กรดไขมันที่ได้จากอะโวคาโดจะช่วยลดปริมาณของ LDL-cholesterol ซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลอันเป็นผลเสียต่อร่างกายและยังช่วยเพิ่มปริมาณของ HDL-cholesterol ในกระแสเลือดซึ่งเป็นคอเลสเตอรอลที่เป็นผลดีต่อร่างกายเช่นกัน คุณประโยชน์ของมันจะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ช่วยลดไขมันในกระแสเลือด โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคไขมันในเลือดสูง ทั้งยังมีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก หนุ่มสาวที่รักสุขภาพหลายคนจึงมักนิยมเอาอะโวคาโดมาเป็นส่วนหนึ่งของจานสลัดผลไม้นั่นเองค่ะ ทั้งนี้ นั่นก็เพราะมันให้คาร์โบไฮเดรตและให้ระดับน้ำตาลต่ำ จึงนับเป็นอีกผลไม้หนึ่งชนิดที่ผู้ป่วยเบาหวานสามารถกินได้เช่นเดียวกัน
พร้อมกันนี้ ยังมีวิตามินสูงหลายชนิด เช่น วิตามิน A ซึ่งจะเปลี่ยนมาเป็นเบต้าแคโรทีน โดยมันจะมีประโยชน์ช่วยในการบำรุงสายตา วิตามิน B ที่จะช่วยป้องกันโรคเหน็บชา โรคปากนกกระจอกและวิตามินซีที่ช่วยป้องกันโรคหวัดและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
อะโวคาโดกับประโยชน์ในการบำรุงผิว
สำหรับเรื่องของผิวพรรณ สาวๆ สามารถกินเพื่อชะลอริ้วรอยและสร้างเสริมเซลล์ผิวให้สุขภาพดีแข็งแรง อ่อนเยาว์กว่าวัยอย่างสมบูรณ์แบบได้ด้วยนะคะ เนื่องจากมันมีวิตามินอีซึ่งเป็นดั่งสารต้านอนุมูลิสระสูง จึงมีประสิทธิภาพในการช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ภายในร่างกาย ป้องกันไม่ให้มลภาวะรอบตัวมาทำลายได้ อีกทั้งยังสามารถป้องกันโรคมะเร็งชนิดต่างๆ รวมถึงโรคหัวใจได้ด้วย สำหรับผู้ใหญ่เรานั้นควรให้ร่างกายได้รับวิตามินอย่างน้อย 10 mg ต่อวันจึงจะถือว่าเพียงพอ
นอกจากนี้แล้ว ยังมีแร่ธาตุอื่นๆ อีกหลายชนิด เช่น โซเดียม โพแทสเซียมและโฟเลทซึ่งจะช่วยลดคอเลสเตอรอลดังที่กล่าวไว้เบื้องต้น โดยเฉพาะในสตรีตั้งครรภ์ ‘สารโฟเลท’ เป็นสารที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับอย่างเพียงพอทีเดียว เพราะมันมีส่วนช่วยเสริมสร้างเซลล์เนื้อเยื่อของทารกและช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตได้ดีนั่นเอง
สำหรับคนไทยเราสมัยก่อนมักนิยมนำกล้วยสุกบดละเอียดมาป้อนทารกจริงมั้ยคะ แต่ยุคปัจจุบันเราสามารถนำอะโวคาโดสุกมาบดละเอียดผสมกับกล้วยในอัตราส่วน 1:1 แล้วป้อนทารกน้อยแทนได้เช่นเดียวกัน เพียงเท่านี้คุณก็จะได้อาหารเสริมสุขภาพทารกได้ดีแล้วค่ะ
ทราบถึงประโยชน์อะโวคาโดกันเช่นนี้แล้ว อย่ามองข้ามสุดยอดผลไม้เพื่อสุขภาพอย่างอะโวคาโดกันเด็ดขาด แล้วคุณจะรู้ว่าอาหารเพื่อสุขภาพไม่ได้มีเพียงแค่ที่เคยรู้จักแต่เพียงเท่านั้น