กระถิน
กระถิน (Leucaena leucocephala) เป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดเล็กในวงศ์ถั่ว มีถิ่นกำเนิดในเม็กซิโกและอเมริกากลาง แต่ปัจจุบันพบได้ทั่วไปในเขตร้อนและกึ่งร้อนทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย
ลักษณะทั่วไปของกระถิน:
- ใบ: ใบประกอบแบบขนนกสองชั้น มีใบย่อยขนาดเล็กจำนวนมาก
- ดอก: ดอกออกเป็นช่อกลม สีขาวหรือเหลืองอ่อน
- ฝัก: ฝักแบนยาว สีเขียว เมื่อแก่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
- เมล็ด: เมล็ดแบน รูปไข่ สีน้ำตาล
ประโยชน์ของกระถิน
กระถินมีประโยชน์หลากหลายด้าน ทั้งในด้านการเกษตร ปศุสัตว์ โภชนาการ และการแพทย์แผนไทย
ด้านการเกษตร:
- ปุ๋ยพืชสด: กระถินช่วยปรับปรุงดิน เพิ่มอินทรียวัตถุ และธาตุอาหารในดิน โดยเฉพาะไนโตรเจน ทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ขึ้น
- ป้องกันการชะล้างพังทลายของดิน: ระบบรากของกระถินช่วยยึดดิน ป้องกันการพังทลายของหน้าดิน โดยเฉพาะในพื้นที่ลาดชัน
- เพิ่มความชื้นในดิน: กระถินช่วยเพิ่มความชื้นในดิน ทำให้ดินมีความสามารถในการอุ้มน้ำได้ดีขึ้น
- เป็นร่มเงา: กระถินสามารถปลูกเป็นร่มเงาให้กับพืชอื่นๆ ที่ต้องการแสงน้อย
ด้านปศุสัตว์:
- อาหารสัตว์: ใบและฝักอ่อนของกระถินมีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับเป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้อง เช่น โค กระบือ แพะ แกะ
- เสริมสร้างสุขภาพสัตว์: กระถินมีสารอาหารที่จำเป็นต่อสัตว์ เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส และวิตามินเอ ช่วยเสริมสร้างสุขภาพของสัตว์
ด้านโภชนาการ:
- อาหารคน: ยอดอ่อนและฝักอ่อนของกระถินสามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย เช่น แกง ยำ ผัด หรือรับประทานสด
- แหล่งโปรตีน: กระถินมีโปรตีนสูง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมโปรตีนในอาหาร
- วิตามินและแร่ธาตุ: กระถินมีวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
ด้านการแพทย์แผนไทย:
- ใบ: ใช้เป็นยาแก้ไอ ขับเสมหะ แก้ท้องเสีย แก้ปวดเมื่อย
- ราก: ใช้เป็นยาขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ
- เมล็ด: ใช้เป็นยาแก้ไอ ขับเสมหะ
ข้อควรระวัง:
- เมล็ดกระถินมีสารพิษ หากรับประทานในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการผมร่วง และมีผลต่อระบบสืบพันธุ์
- ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ หรือโรคไต ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานกระถิน
กระถินเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมาย แต่ควรใช้ประโยชน์อย่างระมัดระวัง และปรึกษาแพทย์ก่อนนำมารับประทานเพื่อเป็นยา