ปัญหาผิวหน้าของผู้หญิงเราคงไม่มีอะไรมากหรอกนอกจากสิว ฝ้า กระและจุดด่างดำ ปัญหาเหล่านี้รบกวนผิวหน้าสวยใสของผู้หญิงเราได้เสมอ แม้แต่ให้ดูแลผิวไม่ให้มีสิวเป็นอย่างดีแค่ไหน ผิวหน้าก็อาจเสี่ยงที่จะเป็นฝ้าและกระตามมาได้อีกอยู่แล้ว หากเราไม่ได้ดูแลใส่ใจหรือรับมือปัญหาฝ้าอย่างดีพอ ฝ้าและกระหรือแม้แต่จุดด่างดำรวมทั้งริ้วรอยก็ย่อมมาเยือนผิวสวยของผู้หญิงเราได้เสมอเช่นกัน ดังนั้น วันนี้เรามาทำความรู้จักฝ้าเพื่อรับมือและแก้ปัญหาไปพร้อมกันดีกว่า
ฝ้าคืออะไร
ฝ้าคือรอยบนผิวหนังที่มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลหรือดำ พบได้ในบริเวณผิวที่โดนแสงแดดมากๆ ฝ้าที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ไม่ใช่การเกิดขึ้นเองตั้งแต่กำเนิด เพียงแต่จะเกิดขึ้นพร้อมผิวที่กระทบแสงแดดจัดหรือตากแดดเป็นเวลานาน จนกระทั่งเกิดเป็นแผ่นสีดำรวมตัวกันเป็นปื้นหรืออาจจะมีลักษณะสีเข้มๆ บนผิวรวมตัวกันเป็นกระจุกๆ นั่นเอง
สาเหตุของการเกิดฝ้าเกิดได้จาก 2 ปัจจัยดังนี้
1. เกิดจากความผิดปกติของเซลล์สร้างสีจึงทำให้เม็ดสีที่ผลิตออกมามีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ และเกิดจากเซลล์สร้างสีได้รับอิทธิพลจากแสงแดดที่คอยทำหน้าที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น
2. เกิดจากอิทธิพลของฮอร์โมนการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายก็ทำให้เกิดฝ้าได้เหมือนกัน เช่น การตั้งครรภ์ การทานยาคุมกำเนิด ช่วงวัยหมดประจำเดือนและเกิดจากฮอร์โมนที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอางบางชนิด โดยเฉพาะครีมบำรุงผิวหรือยาที่มีการโฆษณาว่าใช้แล้วสามารถรักษาสิวและฝ้าได้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักมีส่วนผสมของฮอร์โมนจากภายนอกร่างกายที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าได้เช่นเดียวกัน
ทำความเข้าใจเพื่อจัดการปัญหาฝ้าด้วยตัวคุณเอง
ก่อนอื่นสาวๆ จะต้องทำความเข้าใจและเรียนรู้กลไกลของการเกิดฝ้าอย่างถ่องแท้ให้ดีเสียก่อน เพราะจะทำให้คุณได้ทราบถึงสาเหตุอันซับซ้อนของการเกิดฝ้า เนื่องจากสาเหตุที่ซับซ้อนเหล่านี้เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เราคิดว่าการรักษาฝ้าค่อนข้างเป็นไปได้ยาก แต่หากเรามีความรู้ความเข้าใจเรื่องฝ้าอย่างลึกซึ้งดีแล้ว ก็สามารถรับมือแก้ปัญหาฝ้าได้อย่างถูกต้องมากขึ้นรวมไปถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาฝ้าได้อย่างเหมาะสมตรงจุดอีกด้วย
อยากรู้ไหมสาเหตุใดที่ทำให้การรักษาฝ้าไม่ได้ผล
- เนื่องจากTyrosinaseไม่ใช่ปัจจัยเพียงข้อเดียวที่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดฝ้า
- ยาทาฝ้าบางประเภทไม่สามารถยับยั้ง Tyrosinaseได้ 100%
- กลไกของการสร้างเม็ดสีของฝ้านั้นมีหลากหลายขั้นตอนโดยในวิธีการรักษาอาจจะยังขาดปัจจัยที่ช่วยยับยั้งได้
- ตัวยาหรือผลิตภัณฑ์ทาฝ้าที่ใช้รักษาอยู่ไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปรักษาได้ลึกถึงระดับผิวชั้นหนังแท้ที่ทำให้เกิดฝ้าได้
- นอกเหนือจาก Melanin ที่ส่งผลให้เกิดฝ้าแล้ว สีบางชนิดที่เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางก็ยังเป็นอีกสาเหตุของการเกิดฝ้าได้เช่นเดียวกัน
กลไกลของการเกิดฝ้านั้นมีหลากหลายขั้นตอนและซับซ้อนอย่างมาก การรักษาจึงต้องมาพร้อมการใช้สารหลายชนิดเข้าช่วยในการยับยั้งการทำงานของแต่ละกลไกเพื่อหยุดการเกิดสีของฝ้าบนผิวหนังได้ ดังนั้น เพื่อการรักษาฝ้าที่ได้ผล จึงต้องใช้สารยับยั้งการเกิดสีอย่างครบถ้วนทุกขั้นตอนและที่สำคัญเพื่อไม่ให้ผิวหน้ากลับมาเกิดฝ้าได้ซ้ำอีก ควรปกป้องผิวจากแสงแดดไปพร้อมกันจะดีมาก อีกทั้งยังทำให้การรักษารอยฝ้ามีสภาพจางลงได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นอีกด้วย สำหรับการรักษานั้นจะมาพร้อมการใช้วิธีการต่างๆ ที่เร่งให้รอยฝ้าบนผิวหน้าเกิดการหลุดลอกออกไปอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ และเกิดเซลล์ผิวใหม่ที่ดีกว่าขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวเก่า เช่น การรักษาด้วยการลอกผิวจากกรดผลไม้หรือทำเลเซอร์บางชนิดก็จะค่อยๆ ช่วยลดเลือนรอยฝ้าบนใบหน้าให้จางค่อยๆ ลงจนกระทั่งหายขาดในที่สุด
สำหรับวิธีของการรักษาฝ้านั้น ไม่ว่าจะรักษาด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่มาพร้อมการใช้สารต่างๆ พร้อมกันหรือไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาทาฝ้าก็ตาม สาวๆ ควรหลีกเลี่ยงศัตรูตัวฉกาจของผิวสวยนั่นก็คือแสงแดดให้มากที่สุด โดยทาครีมกันแดดปกป้องผิวที่มีค่า SPF สูงเท่านั้น และหากหมั่นหลีกเลี่ยงแสงแดดได้บ่อยๆ จะดีมาก รวมทั้งในช่วงที่กำลังรักษาคุณต้องใจเย็นไปพร้อมกัน เพราะฝ้าจะค่อยๆ หายขาดไปเองในแบบธรรมชาติโดยอาศัยระยะเวลาเป็นตัวช่วย อาจจะแลดูช้าไปบ้างแต่หากสาวๆ ทำได้ตามนี้ก็นับว่าคุ้มค่ากับการรักษาฝ้าด้วยตัวคุณเองเป็นอย่างดีทีเดียวค่ะ