อยากลดน้ำหนักให้สำเร็จ สาวๆ ร้อยทั้งร้อยเลยมักเลือกลดปริมาณอาหารลง และโดยมากมักจะเข้าใจผิดๆ หันไปงดกินแป้งจนทำให้ร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรต ทั้งที่จริงๆ แล้วคาร์โบไฮเดรตก็เป็นสารอาหารจำเป็นที่ร่างกายต้องได้รับเช่นกัน
เมื่อเราไม่กินอาหารประเภทแป้งก็ทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ของสุขภาพตามมาได้ เพราะฉะนั้น เราควรกินอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตจะดีกว่านะคะ โดยเลือกกินให้เป็น เมื่อเราเลือกกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต แต่ไม่ทำให้อ้วนขึ้นได้ แถมยังทำให้สุขภาพดีตามมา ปัญหาต่างๆ ของสุขภาพก็จะไม่ตามมาแน่นอน แต่ก่อนอื่นเราจะต้องมาดูก่อนค่ะว่าคาร์โบไฮเดรตนั้นมีประเภทไหนบ้าง และมีความแตกต่างกันอย่างไร เมื่อรู้แล้วจะได้เลือกกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตอย่างถูกต้องต่อไป
คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว (Simple Carbohydrates)
จัดเป็นชนิดของคาร์โบไฮเดรตขั้นพื้นฐานค่ะเมื่อหากเข้าสู่ร่างกายเราแล้ว คาร์โบไฮเดรตชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องผ่านการย่อยมากหรือย่อยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ร่างกายก็จะสามารถดูดซึมเข้ากระแสเลือดและนำไปใช้ได้ทันที อันได้แก่ น้ำตาลชนิดต่างๆ ทั่วไปค่ะ อย่างเช่น น้ำตาลทราย (น้ำตาลซูโรส) น้ำตาลฟรุ๊กโตสในผักและผลไม้ต่างๆ และน้ำตาลแลคโตสจากน้ำนม คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ค่อนข้างมีรสหวานและมักนิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการทำอาหารต่างๆ
คาร์โบไฮเดรตชนิดนี้มีประโยชน์กับร่างกายตรงที่สามารถให้พลังงานได้เร็ว แต่ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นเร็ว ดังนั้น มันจึงไม่เหมาะสำหรับผู้เป็นเบาหวาน นอกจากนี้ ยังทำให้ผู้รับประทานมีน้ำหนักขึ้นเร็วหรืออ้วนง่าย และส่งผลเสียกับสุขภาพในด้านอื่นๆ ตามมาได้ด้วย
คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน (Complex Carbohydrates)
เป็นคาร์โบไฮเดรตที่ได้จาก ข้าว แป้งและอาหารธัญพืชอื่นๆ โดยร่างกายจะใช้เวลาในการย่อยจนเปลี่ยนมาเป็นน้ำตาล จากนั้นจึงดูดซึมเข้าสู่ร่างกายตรงผนังเซลล์ของลำไส้เล็กจากนั้นจึงค่อยๆ ลำเลียงเข้าสู่กระแสเลือดต่อไป สำหรับคาร์โบไฮเดรตประเภทนี้นั้นมักรู้จักกันทั่วไปคือ เป็นอาหารประเภทแป้ง นอกจากนี้ ยังสามารถแยกย่อยออกเป็นหลายประเภทได้ด้วย เช่น เปลี่ยนมาเป็นน้ำตาลได้อย่างรวดเร็ว เปลี่ยนมาเป็นน้ำตาลได้ช้าโดยเฉพาะกับอาหารประเภทที่ย่อยยาก อย่างเช่น ข้าวเหนียวจะเปลี่ยนมาเป็นน้ำตาลได้รวดเร็ว
ขณะเดียวกัน อาหารจำพวกข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือที่ไม่ได้ผ่านการขัดสี ถั่วบางชนิด ธัญพืช ข้าวโอ๊ตและขนมปังโฮลวีท นับเป็นคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการย่อยได้ช้า ทว่ากลับเปี่ยมด้วยวิตามิน แร่ธาตุและสารอาหารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับร่างกายมากทีเดียว ในส่วนคาร์โบไฮเดรตประเภทที่ย่อยยากนั้นเรามักจะรู้จักกันในนามว่า “ใยอาหาร” โดยพบมากในพืชผักผลไม้ที่ให้พลังงานน้อย แต่สามารถช่วยเรื่องการขับถ่ายได้เป็นอย่างดีเช่นกัน
สัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตที่ร่างกายควรได้รับต่อวันอย่างเหมาะสม
ร่างกายของคนเราควรได้รับสัดส่วนของคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสม โดยควรอยู่ที่ร้อยละ 60 – 65 ของพลังงานที่ร่างกายจำเป็นต้องการทั้งหมดหรือประมาณ 200 – 300 กรัมต่อวันนั่นเอง ซึ่งควรได้จากคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นหลักและยังควรจำกัดคาร์โบไฮเดรตประเภทเชิงเดี่ยวให้ร่างกายได้รับน้อยกว่าร้อยละ 10 ของพลังงานทั้งหมด ดังนั้น แนะนำให้ทานน้ำตาลเพียงเล็กน้อยคือ ไม่ควรเกินวันละ 6 ช้อนชา รวมถึงปริมาณน้ำตาลทั้งหมดที่ได้รับทั้งจากเครื่องดื่มทุกประเภท และน้ำตาลสำหรับแต่งเติมเป็นเครื่องปรุงประกอบอาหารด้วยเช่นเดียวกัน
แท้จริง คาร์โบไฮเดรตไม่ได้ทำให้อ้วนอย่างที่คิด!
แท้จริงแล้ว เราควรหันมาเปลี่ยนความเชื่อเสียใหม่นะคะว่าการกินอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตนั้นไม่ได้ทำให้น้ำหนักเกินหรือทำให้อ้วนอย่างที่คิดหรอกค่ะ การที่เราจะอ้วนสาเหตุก็มาจากการที่เรากินอาหารที่ให้พลังงานมากเกินกว่าความต้องการของร่างกายนั่นเอง เมื่อร่างกายไม่สามารถเผาผลาญแคลอรี่ที่เหลืออยู่ได้หมด มันจึงถูกเก็บสะสมเป็นไขมันและทำให้กลายเป็นสัดส่วนเกิน จนทำให้น้ำหนักขึ้นและอ้วนในที่สุด (จริงๆ แล้ว คาร์โบไฮเดรตให้พลังงานน้อยกว่าไขมันทรานส์เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น)
กินคาร์โบไฮเดรตอย่างไรให้ถูกต้อง ไม่อ้วน..และมีสุขภาพชีวิตที่ดี
สำหรับการกินคาร์โบไฮเดรตอย่างถูกวิธีนั้น แนะนำให้หันมากินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตจำพวกข้าวหรือแป้ง ที่ไม่ผ่านการขัดสีเป็นประจำทุกวัน โดยกินร่วมกันกับผักและผลไม้ เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ร่างกายได้รับคาร์โบไฮเดรตที่ได้คุณภาพเป็นประโยชน์อย่างแท้จริงและไม่ทำให้อ้วนอย่างที่คิดได้แล้ว
ผลเสียต่อสุขภาพระยะยาว หากร่างกายไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตเพียงพอ
ด้วยเพราะที่ผ่านมาสาวๆ หลายคนที่ต้องการลดน้ำหนักกลับลดไปพร้อมกับการที่มีความเชื่อเรื่องการกินแป้งแบบผิดๆ จึงลดสัดส่วนในการกินแป้งและหันมาเพิ่มปริมาณของโปรตีนมากขึ้น ทว่าในความเป็นจริงแล้ว การกินอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตก็ยังมีความสำคัญกับร่างกายของคนเราอยู่ เพราะอวัยวะต่างๆ ยังต้องการพลังงานอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งแหล่งพลังงานที่สำคัญยังควรมาจากน้ำตาลกลูโคสที่ได้มาจากการย่อยสลายคาร์โบไฮเดรต ดังนั้น การที่เรางดกินคาร์โบไฮเดรตก็ย่อมำให้ร่างกายไม่ได้รับกลูโคสมาใช้อย่างเพียงพอ ส่งผลให้เกิดภาวะกรดที่มาจากการใช้ไขมันเป็นพลังงานที่มากเกินไป กระทั่งร่างกายเสียความสมดุลและหากปล่อยให้เป็นแบบนี้ยาวนาน มันจะกลายมาเป็นปัญหาสุขภาพในระยะยาวต่อไปได้แน่นอนค่ะ
สาวๆ ทราบกันแบบนี้แล้วจากนี้หวังว่าคุณจะหันมากินอาหารที่ให้คาร์โบไฮเดรตที่ถูกต้องอย่างเพียงพอนะคะ เพียงกินกับผักผลไม้อื่นๆ ให้มากๆ ดื่มน้ำวันละ 8 – 10 แก้วและออกกำลังกายเป็นประจำ เชื่อว่าแค่นี้…ก็จะทำให้คุณมีสุขภาพดีและไม่ทำให้อ้วนแล้วค่ะ